แม้กระทั่ง นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตเลขาคณะกรรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ส่งอีเมลเวียนถึงคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ระบุว่า “เรียนทุกท่านครับ ผู้จัดการธนาคารออมสิน ขาดจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ขาดความรับผิดชอบต่อเงินฝากของเด็กและผู้ฝากกู้ทั่วไป … ไร้จริยธรรม ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พนักงานธนาคารและผู้คนในสังคมต่างพากันคัดค้าน … นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งของระบอบทักษิณ
ส่วนนายสรวิชญ์ สุบุญ หรือหมอก้อง โพสต์เฟซบุ๊ก KRONG SARAWIT ว่า “เช้านี้ขายสลากออมสินไปแล้วแต่ได้เป็นแคชเชียร์เช็ค เพราะธนาคารมีเงินสดไม่พอ ไม่ได้ต้องการอะไรมาก นอกจากต้องการจุดยืนครับ เมื่อปัญหาจบจะกลับไปใช้บริการใหม่ครับ”
ขณะที่นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อควมผ่าน Kanok Ratwongsakul Fan Page ว่า “เมื่อประชาชนเกิดความสงสัย “ออมสิน” ว่าไปข้องเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ลูกค้าจึงแห่ไปถอนเงิน ภาพนี้ที่ห้างพาราไดซ์ ถูกถอนเงินจนเงินสดหมด ต้องขอจ่ายเป็นแคชเชียร์ หรือถ้าจะบอกว่า สาขาของออมสินกำลังเกิดภาวะสภาพคล่องสะดุด…ก็ว่าได้ ”
ขณะเดียวกันโลกโซเชียลยังแชร์ภาพเอกสารรายการรับฝาก – ถอนเงินของธนาคารออมสิน สาขาพาราไดซ์ พาร์ค (ศรีนครินทร์) ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ระบุว่ามีจำนวนรายการถอนเงินที่ผิดปกติถึง 80 ราย วงเงินกว่า 57 ล้านบาท โดยระบุสาเหตุการถอนที่ผิดปกติไว้จำนวน 2 สาเหตุ คือ 1. ธนาคารเอาเงินไปปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส. และ2. ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้ยังรายงานว่า เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.นครศรีธรรมราช แสดงความไม่พอใจรัฐบาลรวมตัวแต่งชุดดำประท้วง แสดงการคัดค้านการกู้เงินจากธนาคารออมสินไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าว
จากความโกลาหลดังกล่าว ทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสินออกแถลงการณ์ ระบุว่า แม้ว่าการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนี้ไม่ได้เกี่ยวโยงหรือเกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้โครงการจำนำข้าวก็ตาม แต่เพื่อความโปร่งใส สหภาพแรงงานฯขอให้ธนาคารออมสินหยุดการให้กู้แก่ ธ.ก.ส. โดยทันที
ส่วนนายวรวิทย์ ผอ.ออมสิน ถือว่างานเข้าเต็ม ๆ เมื่อถูกโลกซีชียลขุดประวัติว่า มีความใกล้ชิดกับระบอบทักษิณ จากความกระแสความวุ่นวายของประชาชนที่พร้อมใจกันไปถอนเงินออกจากธนาคารออมสินนั้น ทำให้นายวรวิทย์ ออกมาแถลงยุติการปล่อยเงินกู้ให้กับ ธ.ก.ส. แต่ยังไม่สร้างความไว้วางใจให้ประชาชนมากพอ ทำให้นายวรวิทย์ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก พร้อมให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้คนภายนอกมองว่า ธนาคารออมสินเป็นธนาคารเสื้อแดง
มีรายงานว่าในช่วง 4 วันที่ประชาชนแห่ไปถอนเงินจากธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 17-20 กุมภาพันธ์ 2557พบว่า ธนาคารมีเงินไหลออกสุทธิรวมประมาณ 60,900 ล้านบาท โดยมียอดถอนเงินรวม 105,700 ล้านบาท และยอดฝากเงินรวมอยู่ที่ 44,800 ล้านบาท สำหรับยอดการฝาก-ถอนเงินวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ธนาคารออมสินมียอดฝากเงิน 12,000 ล้านบาท ถอนเงิน 24,000 ล้านบาท วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 มียอดฝากเงิน 10,800 ล้านบาท ถอนเงิน 38,000 ล้านบาท และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 มียอดฝาก 10,000 ล้านบาท และถอนเงิน 30,000 ล้านบาท
นี่คือปรากฎการณ์ความไม่พอใจต่อการทำงานของรัฐบาลที่มีความพยายามควักเงินจากกระเป๋าของประชาชนไปใช้เพื่อกลบความผิดพลาดในนโยบายที่ล้มเหลว และแม้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะผ่านมาเกือบ 10 ปี
แต่ต้องไม่ลืมว่า ความไม่พอใจครั้งนั้นมาจากการความล้มเหลวในนโยบายจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทยที่ทำให้ประเทศชาติวินาศสันตะโร ดังนั้นบทเรียนประชาชนแห่ถอนเงินออมสินอาจย้อนกลับมาอีกครั้งก็เป็นไปได้…?