“เกียรติ สิทธีอมร” ติงรัฐบาล “จิ้งจกทักยังต้องฟัง”ชี้ ธปท.นักเศรษฐศาสตร์ รุมค้าน เงินดิจิทัลได้ไม่คุ้มเสีย

เกียรติ สิทธีอมร” โพสต์ยาวติงรัฐบาล “จิ้งจกทักยังต้องฟัง”ชี้ ธปท.นักเศรษฐศาสตร์ รุมค้าน เงินดิจิทัลได้ไม่คุ้มเสีย ยัน หากฝืน ทำหนี้สาธารณะพุ่งแน่นอน ลั่น คิดแบบศรีธนญชัยหรือ นิติกรรมอำพราง ไม่ได้ เผย ไม่ใช่แค่จิ้งจก แต่ทั้ง Fitch และ Moody’s บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือโลก ออกโรงเตือนแล้ว ไทยมีความเสี่ยงฐานะทางการคลัง

นายเกียรติ สิทธีอมร อดีต ประธานผู้แทนการค้าไทยและอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายกฯและรัฐบาล ว่า จิ้งจกทักยังต้องฟัง เงินดิจิทัล 10,000 บาท พูดกันมาตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง ทั้งความไม่ชัดเจน..!! ความคลุมเครือของที่มาของเงิน..!! ผลกระทบต่อหนี้สาธารณะ..!! ความคุ้มค่า..!! ทำไมต้องเป็นระบบ Blockchain..?? ทำไมต้องใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตรตามทะเบียนบ้าน..?? เงินนี้ใช้ที่ร้านค้าไหนได้บ้าง..?? ทุกวันนี้คำถามเหล่านี้ยังไม่มีคำตอบ กกต.ปล่อยผ่านมาได้อย่างไรก็ไม่ทราบ ทั้ง ๆ ที่มีความไม่ชัดเจนมากมาย..!! จึงต้องจะถามดังๆ อีกครั้งถึงนโยบายนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1. คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้าน ถ้าต้องกลับบ้านเกิดเพื่อใช้เงิน ก็จะเป็นการสร้างภาระ เพิ่มค่าใช้จ่าย เสียเวลา เสียค่าเดินทางกลับไปใช้เงินตามนโยบายนี้ ที่สำคัญร้านค้าในต่างจังหวัดจะมีความพร้อมในการรับเงินดิจิทัลหรือไม่ก็..??? เมื่อไหร่..??
2. เราจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้หรือไม่..? ทั้งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ นักธุรกิจหลายสำนักที่หวังดีกับประเทศไทย ต่างออกมาทักดังๆว่า ได้ไม่คุ้มเสียและไม่เข้าใจว่า ทำไมจะต้องแจกคนรวย คนมีอันจะกินด้วย…???
3. ในส่วนของแหล่งเงิน ก็จะใช้ธนาคารของรัฐออกเงินไปให้ก่อน โดยการเพิ่มเพดานหนี้ของธนาคารรัฐเพื่อให้กู้เงินได้มากขึ้น วิธีนี้เป็นการเลี่ยงหนี้สาธารณะ แต่จริง ๆ แล้วหนี้ของธนาคารรัฐก็คือหนี้ของประชาชนอยู่ดี อีกทั้งภาษีที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายนี้ ก็ไม่มีทางที่จะชดเชยเงินกู้จากธนาคารรัฐได้ หนีไม่พ้นสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น เรื่องนี้ควรทำอย่างตรงไปตรงมาดีที่สุด คิดแบบศรีธนญชัยหรือใช้นิติกรรมอำพรางไม่ได้ครับ..!!
4. การใช้ Blockchain เพื่อบริหารจัดการนโยบายนี้ยังมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 20,000 – 30,000 ล้านบาท ต้องถามว่าใครจะได้เงินก้อนนี้ เพราะเริ่มมีข้อครหาในสื่อโซเชียลแล้วว่า บริษัทที่นายกรัฐมนตรีเคยบริหารและเป็นเจ้าของจะได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ซึ่งยังไม่มีใครชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดๆ สักที..!! เอาเงินส่วนนี้ไปช่วยคนมีรายได้น้อยจะดีกว่ามั้ยครับ..!! นอกจากนั้น การใช้ Blockchain เก็บข้อมูลของประชาชนเกือบทั้งประเทศ จะจัดการวิธีใด ใครจะเป็นคนทำ…???? จะไม่ให้มีคนฉวยโอกาส นำข้อมูลที่ถือว่ามีค่ามากไปใช้เพื่อประโยชน์สำหรับคนบางกลุ่ม รวมทั้งประโยชน์ทางการเมืองได้ยังไง..???? ใครจะรับผิดชอบในเรื่องนี้ครับ..????

5. หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่ากลุ่มคนที่มีรายได้น้อยและต้องได้รับการช่วยเหลือจริงๆ นั้น มีประมาณ 13 – 15 ล้านคนโดยอ้างอิงจากข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ถ้าคิดตามหลักของสหประชาชาติที่คิดรายได้ต่อหัวต่อวัน 1- 2 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 40 – 80 บาทต่อวัน จะมีประมาณ 8 – 10 ล้านคน การแจกเงินแบบเหวี่ยงแหซึ่งเป็นประชานิยมสุดโต่งอย่างนี้ เป็นการใช้เงินมาก ไม่ตรงเป้า และได้ไม่คุ้มเสีย..!!!!
6. ที่จริงแล้ว หากต้องการหาผู้มีรายได้น้อยไม่ใช้เรื่องยาก แค่ดูบัญชีธนาคารรวมกันของทุกคน ว่าใครมีเงินรวมแล้วไม่ถึง 10,000 บาท ก็ใส่เงินตรงเข้าบัญชีได้เลย หรือถ้าใครไม่มีบัญชีก็สามารถเปิดบัญชีใหม่ให้เลย แบบนี้ไม่ดีตรงไหนครับ.. ??? ไม่ยุ่งยาก ไม่สลับซับซ้อน..!!!! ถ้าจะให้เงินถึง 20,000 บาทกับเฉพาะคนกลุ่มนี้ก็ยังได้ น่าจะช่วยลดความเลื่อมล้ำได้มากกว่า และแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่าไหมครับ..????
ตอนนี้มันมากกว่าจิ้งจกทักแล้ว ทั้ง Fitch และ Moody’s ซึ่งบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ต่างออกมาเตือนแบบสุภาพๆ ถึงความเสี่ยงด้านฐานะทางการคลังของประเทศไทยถ้าดำเนินนโยบายนี้ แถมในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนตัวลงอย่างมาก ดอกเบี้ยสูง น้ำมันแพง ก๊าซแพง ข้าวของแพง เงินเฟ้อสูง ในขณะที่เศรษฐกิจทั้งโลกถดถอย เป็นสัญญานที่ต้องเฝ้าระวังแบบไม่กระพริบตา และบริหารจัดการให้ดีนะครับ..!!!!! ด้วยเหตุผลเหล่านี้ รัฐบาลน่าจะทบทวนนโยบายนี้อย่างจริงจังนะครับ
“รัฐบาลมีหน้าที่สร้างรายได้ สร้างความเจริญ ไม่ใช่สร้างภาระให้กับลูกหลานนะครับ..!!!”
#เงินดิจิทัล #ได้ไม่คุ้มเสีย #สร้างภาระให้ลูกหลาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง
“รทสช.” เคลื่อนไหว หลังสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา “พีระพันธุ์” Fc แห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น