ภาคประชาชนขยับ ล่าชื่อค้านรบ.แจกเงินดิจิทัล พร้อมยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน

ภาคประชาชนขยับ! ล่าชื่อค้านรบ.แจกเงินดิจิทัล พร้อมยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลปกครอง-ศาลรธน.ชี้ขาด ขัดกฎหมายวินัยการเงินการคลังหรือไม่

วันนี้ นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ได้โพสต์เฟสบุ๊กเชิญชวนประชาชนให้ร่วมลงชื่อ ผ่าน docs.google.com เพื่อคัดค้านนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล โดยนางวิรังรอง ระบุรายละเอียดว่า ขอเชิญร่วมลงชื่อคัดค้าน และเรียกร้องให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” 10,000 บาท และร่วมร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจ ดำเนินการส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางวิรังรอง เปิดเผยอีกว่า ตนเองได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว พร้อมขอบคุณคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ 81 ท่านที่ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงมาก ตนไม่อาจทราบว่าที่กระทำไปนี้จะได้ผลอย่างไรหรือไม่ เพราะรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ดูจะเดินหน้าไม่ฟังเสียงประชาชนเลย คิดว่าคงทำได้ตามกำลังเพียงเท่านี้ แต่ก็รู้สึกดีกว่าการที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย

นางวิรังรอง ยังเปิดเผยรายละเอีดของหนังสือร้องเรียน ที่ได้ยื่นถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีรายละเอียดตอนหนึ่งว่า แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่ตรงไปตรงมา ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน และไม่เกี่ยวกับการฟอกเงินตามที่มีผู้กล่าวอ้าง แต่ประชาชนจำนวนมากมีความเห็นว่า หากรัฐบาลมีเงินสดที่จะแจกให้กับประชาชนได้ การแจกเงินก็ควรจะสามารถทำได้ตรงๆ เหมือนสมัยที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแจกประชาชนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยและใช้เป็นอยู่แล้ว แต่การที่รัฐบาลไม่แจกเป็นเงิน ทำให้เกิดเป็นเรื่องยุ่งยากที่ถกเถียงกันในสังคม ทั้งด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องและด้านกระบวนการปฏิบัติ ยังไม่รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการชำระเงินดิจิทัล สร้างแอปพลิเคชันในการชำระเงิน และสร้างบล็อกเชนใหม่ขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนและระยะเวลาจำนวนมาก

 

สังคมจึงมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า นโยบายดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติในภาพรวม แต่อาจเป็นการหลบเลี่ยงหรือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศ และขัดต่อวินัยการเงินและการคลังของประเทศอย่างร้ายแรง ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีความห่วงใยประเทศชาติ จึงได้ส่งหนังสือร้องเรียนนี้มากราบเรียนขอให้ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน วินิจฉัย หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่ากระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อยู่ไม่ได้แล้ว! ฟ้าพิโรธผ่าบ้าน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ไฟลุกท่วมวอดทั้งหลัง
ผู้ว่าธปท. รับมอบทองคำ 10 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 34 ล้านบาท จากคณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตามหาบัว
“อนุทิน” ซาบซึ้งในพระบารมี “ในหลวง-พระราชินี” ทรงขับเครื่องบินเสด็จฯภูฏานด้วยพระองค์เอง ฟ้าเปิดทางแม้อากาศปิด
ไฟไหม้ร้านอาหารดับ 22 รายที่จีน
คะแนนนิยมผู้นำสหรัฐร่วงต่ำสุดในรอบ 80 ปี
จีนยก 'ไทย' สำคัญระดับสูงในการทูตประเทศเพื่อนบ้าน
บราซิลจัดประชุม”บริกส์”ถกสงครามภาษีทรัมป์
สเปน-โปรตุเกสไฟฟ้ากลับมาแล้ว 99 %
ให้เลือด = ให้ชีวิต เบื้องหลังทุกหยดโลหิต…คือหัวใจจิตอาสา CPF ทั่วไทย
"นฤมล" ร่วมประชุมนายกฯ เกาะติดค้าชายแดน แผนพัฒนาศูนย์ขนส่ง One Stop Service เพิ่มสะดวกนำสินค้าเข้า-ออก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น