“ปานปรีย์” แถลงยืนยันคนไทยเสียชีวิตในอิสราเอล ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย ขอรับฟังข้อมูลจากกต. หวั่นกระทบจิตใจญาติ

"ปานปรีย์" แถลงยืนยันคนไทยเสียชีวิตในอิสราเอล ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย ขอรับฟังข้อมูลจากกต. หวั่นกระทบจิตใจญาติ

วันที่ 8 ต.ค.66 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล ว่า ในเรื่องนี้รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนายกรัฐมนตรีให้พรสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและสั่งการให้สถานทูตที่เทลอาวีฟ รายงานสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง และติดต่อประสานงานกับทางอิสราเอลและแรงงานไทยทุกคน ในครั้งนี้ขอแจ้งเรื่องแรงงานที่ได้รับผลกระทบตามที่สถานทูตกับฝ่ายเเรงงานประจำสถานทูตประสานงานกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน รอการช่วยเหลือจากกองทัพ 3 คน และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล soroka 5 คน เสียชีวิต 1 คน ถูกจับไป 11 คน ซึ่งสถานทูตพยายามติดต่อกับอิสราเอลเพื่อประสานยืนยันข้อมูล แต่ฝ่ายอิสราเอลยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ จึงไม่สามารถยืนยันตัวเลขหรือข้อมูลต่าง ๆ อย่างเป็นทางการได้

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามขออภัยในเรื่องของการเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งตอนนี้ยังไม่ประสงค์ที่จะเผยแพร่ชื่อของแรงงานที่ได้รับผลกระทบ เพราะควรจะต้องติดต่อญาติของแรงงานให้รับทราบก่อน ไม่อยากให้ทราบข่าวจากสื่อเป็นที่แรก และอาจจะสร้างความตระหนกตกใจกันได้ ต้องขอความอนุเคราะห์สื่อมวลชนในส่วนนี้ด้วยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมในเรื่องเครื่องบิน เพื่อเตรียมอพยพลำเลียงคนไทยในอิสราเอลเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยให้เร็วที่สุด แต่ขณะนี้น่านฟ้ายังปิดอยู่ จึงไม่ทำการอพยพในตอนนี้ ซึ่งทางอิสราเอลเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยโดยเร็วที่สุดซึ่งตอนนี้ทางอากาศยานทางอิสราเอลยังไม่เปิด ยังปิดอยู่ ประเทศอื่นๆยังไม่ได้ทำการอพยพในตอนนี้

 

อิสราเอลขณะนี้ได้ประกาศว่าอยู่ในภาวะที่เป็นสงครามจึงมีการห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานต้องลงหลุมหลบภัยเป็นระยะ ๆ ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกคนในอิสราเอลได้รับการอบรมในแนวทางต่าง ๆ อยู่แล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และในเวลา 13.00 ของวันนี้ (8 ต.ค.) ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีการประชุมที่กรมการกงสุลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงต่างประเทศ ฝ่ายทหาร กองทัพอากาศ สภาความมัานคงแห่งชาติ สภาแรงงาน รวมทั้งแพทย์เพื่อที่จะได้ประสานเตรียมการภารกิจต่างๆให้มีการดำเนินการได้อย่างราบรื่นเรียบร้อย ขอให้วางใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการที่จะดูแลช่วยเหลือพี่น้องคนไทย ซึ่งมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างไทยกับอิสราเอล

 

ทั้งนี้ย้ำว่ารัฐบาลไทยไม่เห็นด้วยและขอประนามการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีและตนเอง ได้มีการแสดงท่าทีในเรื่องนี้ไปแล้ว โดยรัฐบาลขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุตติความรุนแรงและปล่อยตัวพลเรือนผู้บริสุทธิ์โดยทันที

นายปานปรีย์ ยังกล่าวอีกว่า มีคำถามเข้ามาเยอะมากถึงสถานการณ์ในอิสราเอล แต่สิ่งที่รัฐบาลไทยเป็นห่วง และกังวลมากที่สุดคือ ความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย และจะต้องดูแลไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เสียชีวิตแล้ว ต้องได้รับการเยียวยา ส่วนผู้ที่บาดเจ็บ รวมถึงคนที่ถูกจับกุม ก็จะหาช่องทางรอบด้านเพื่อให้ปล่อยตัวออกมาให้ได้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศค่อนข้างที่จะมีความพร้อม และประสานงานกับกองทัพอากาศ เพื่อเตรียมแผนอพยพทันที เมื่อทราบสถานการณ์ รอเพียงสัญญาณและคำสั่งว่าอิสราเอลมีความพร้อมเมื่อไหร่ที่จะบินออกไป เพื่อรับคนไทยกลับมา

 

 

 

 

พร้อมกันนี้ได้ประสานงานไปยังชายแดนใกล้เคียง อีกทางหนึ่ง คือทางเรือที่ยังไม่ทราบว่าจะเดินทางไปได้หรือไม่ เนื่องจากความรุนแรงเกิดขึ้นทั้งทางทะเลและอากาศ และมีการล็อคดาวน์ จึงเป็นความยากลำบากมากในการทำงาน แต่จะทำอย่างเต็มที่ แต่สถานทูตไทยประจำอิสราเอล ทูตแรงงาน ทูตพาณิชย์ ทุกคน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างเต็มที่ และ พยายามที่จะแก้ไขปัญหา ให้คนไทยปลอดภัยสูงสุด

ส่วนข้อห่วงใยในเรื่องของประเทศไทยหลังจากออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงไปแล้วนั้น จะส่งผลต่อคนไทยที่ถูกฝ่ายฮามาสจับกุมไปเป็นตัวประกันหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นการประณามในเรื่องความรุนแรง ไม่ได้ประณามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะทางไทยก็ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงจนทำให้คนไทยเสียชีวิต ซึ่งเป็นการกระทำที่ไทยไม่สามารถจะรับได้ เพราะความปลอดภัยของประชาชนชาวไทยเป็นประเด็นสำคัญที่สุด จะบอกว่าคนเสียชีวิตแล้วไม่ได้พูดอะไรเลย มันก็จะไม่ใช่

ระหว่างนี้นายปานปรีย์ ได้ต่อสายไปยัง นางสาวพรรณภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตกรุงเทลอาวีฟ เพื่อรายงานสถานการณ์ล่าสุด ให้เกิดความชัดเจนโดยนางพรรณภา ระบุว่า ตอนนี้สถานการณ์ในอิสราเอลยังมีการสู้รบกันในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตฉนวนกาซา โดยทางฝ่ายอิสราเอลกำลังพยายามยึดคืนพื้นที่ ซึ่งดำเนินการยึดคืนได้เพียง 2 ส่วน แต่ไม่ใช่ในส่วนที่ได้รับรายงานว่า แรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ จึงขอให้ทุกคนทราบว่าไม่ใช่เฉพาะแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยังมีคนอิสราเอล รวมถึง แรงงานของชาติอื่น ๆ ด้วย ซึ่งทางสถานทูตไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ จะติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด

ส่วนแรงงานไทยที่อยู่ในพื้นที่รุนแรงมีถึง 5,000 คนนั้นจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย ของฝ่ายฮามาส หรือไม่ นางพรรณภา กล่าวว่า แรงงานไทยไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ทางฝ่ายฮามาสจะทำร้าย เพียงแต่ว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จึงถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งสถานการณ์แรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ตอนนี้พยายามติดต่อกับฝ่ายแรงงาน แต่ติดต่อได้เฉพาะแรงงานที่บาดเจ็บบางคน ส่วนแรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยังไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ถูกยึดครองอยู่ ต้องรอฝ่ายอิสราเอลเข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อน และตอนนี้ยังไม่มีใครที่จะยืนยันข้อมูลที่แน่ชัดในพื้นที่ได้ ว่าสถานการณ์จริง ๆ เป็นอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" สักการะพญาศรีสัตตนาคราช-จุดเรือไฟบก ดันประเพณีไหลเรือไฟโลก อัปเดตอาการป่วยบอกดีขึ้นแล้ว
กลิ่นเหม็นเน่า "จีนเทา" เช่าโกดังเก็บไส้หมูเถื่อน ส่งขายทั่วไทย จนท.ยึดของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
รัสเซียประกาศหยุดยิง 3 วัน
"นิพนธ์" ชี้บทเรียนใหญ่ ปชป.พ่ายยับเลือกตั้งนครศรีฯ แนะกก.บห.ต้องเร่งทบทวนฟื้นพรรคเป็นที่พึ่งปชช.จริงๆ
"อดีตผกก.โคกเคียน" ร้องนายกฯ สั่งย้าย "ผบช.ภ.9-ผู้การนราธิวาส" เดือดปมบุกรุกพังประตูบ้าน
ชมสีสันงานแข่งวิ่งเทรลบน 'กำแพงเมืองจีน' ในเหอเป่ย
“ภูมิธรรม” ย้ำชัดไม่มีโพลเอาใจนาย ชี้นำกม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ลั่นทุกอย่างมีไทม์ไลน์ ทำอย่างรอบคอบ
เกาหลีใต้สั่งอพยพประชาชนหนีตายไฟป่า
สหรัฐถล่มศูนย์กักกันชาวแอฟริกาที่เยเมนดับเกือบ 70 ราย
สภาองค์กรของผู้บริโภค ร้อง "ผู้ว่าฯกทม." เร่งตรวจสอบความปลอดภัยอาคารสูง 50 เขต ภายใน 30 วัน หลัง 11 ชุมชน แจ้งเบาะแส พบบางแห่ง ทำผิดกม.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น