มติวุฒิสภาไม่เห็นชอบ ส่งตัว “สว.อุปกิต” ให้ตร.สอบคดีอาญา ในช่วงสมัยประชุม

วุฒิสภามีมติท่วมท้น 174:7 เสียง กางปีกป้อง ไม่ส่งตัว "สว.อุปกิต" ให้ ตร. สอบสวน เจ้าตัวเสียงสั่น ยืนยันความบริสุทธิ์ ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม บอก ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทุกข์ทรมานกว่าหนึ่งปี

 

วันที่ 9 ต.ค.66 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ที่มี นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง เป็นประธานในการประชุม ในช่วงหนึ่งประธานได้แจ้งกับที่ประชุมว่า อัยการขออนุญาตออกหมายเรียกตัวสมาชิกสภาวุฒิสภาไปทำการสอบสวน ในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญา ตามมามาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญ

 

 

 

 

ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ขออนุญาตออกหมายเรียกตัว นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกสภาวุฒิสภา (สว.) ไปทำการสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในคดีว่าด้วยยาเสพติด

โดยมาตรา 125 วรรค 1 บัญญัติว่า ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามไม่ให้จับกุม คุมขัง หรือเรียกตัวสมาชิกไปสอบสวน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาฯ ที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือเป็นการจับในขณะทำความผิด ในการนี้จึงต้องได้รับการอนุญาตจากที่ประชุมวุฒิสภาโดยการลงมติ

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นนายอุปกิต จึงได้อภิปรายต่อที่ประชุม ระบุว่า การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะจะช่วยดำรงความยุติธรรมของตนเอง ที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม จนได้รับความทุกข์ทรมานมากกว่าหนึ่งปี เนื่องจากคนรู้จัก รวมถึงลูกเขยได้ถูกจับกุม เมื่อเดือน ก.ย. 2565 พร้อมยืนยันในความบริสุทธิ์ เพราะก่อนมาเป็น สว. ได้สละชื่อออกจากกรรมการหุ้นส่วนจากบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ

 

 

 

 

 

นายอุปกิต กล่าวว่า ตลอด 15 ปี ที่ได้ทำการซื้อขายไฟที่ด่านพม่า อ.ท่าขี้เหล็ก ไม่เคยพบปัญหา จนกระทั่งปี 2563-2565 ที่มีสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ด่านชายแดนปิด ทุน มิน ลัต ได้เข้ามาทำการซื้อขายต่อ และโอนเงินผ่านระบบ Money Changers ซึ่งเป็นวิธีปกติในการซื้อขายชายแดน อย่างไรก็ตาม พนักงานสืบสวนนครบาลกลับเร่งกล่าวหาว่าเส้นทางการเงินที่โอนไปยังการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย มีความเกี่ยวพันกับยาเสพติด ทั้งที่เป็นเพียงการโอนเงินชำระบิลค่าไฟ

เมื่อเดือน ก.พ. 2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายกล่าวหาปรักปรำตนเองอย่างร้ายแรง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ โดยนายตำรวจที่ส่งข้อมูลให้ รังสิมันต์ ก็จงใจแปลงหลักฐานที่เป็นเท็จส่งให้กับศาล ในการจะออกหมายจับตนเอง

 

 

 

นายอุปกิต ชี้ให้เห็นว่า นายรังสิมันต์ ได้พาดพิงอธิบดีและผู้พิพากษาให้เกิดความเสียหาย สะท้อนว่ามีความพยายามด้อยค่ากระบวนการยุติธรรมด้วย รวมถึงการออกหมายจับตนเอง ก็ไม่ชอบธรรม อะไรผิดระเบียบ ถ้าเราปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับตามอำเภอใจได้ ก็สามารถกลั่นแกล้งใครก็ได้ วันหนึ่งสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมนี้ก็สามารถโดนเหมือนตนเองได้

ทั้งนี้ นายอุปกิตยังกล่าวว่า ในระหว่างสมัยประชุม ตนเองได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง แม้ตนเองประสงค์จะสละเอกสิทธิ์นี้ก็ไม่สามารถทำได้ เว้นแต่ที่ประชุมวุฒิสภา ว่าจะลงมติอนุญาตให้มีการออกหมายเรียกต่างๆ หรือไม่ และได้แสดงเจตนาว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยไม่จำเป็นต้องรอให้หมดสมัยประชุมในสิ้นเดือนนี้ เพราะไม่ประสงค์จะให้ผู้ใดนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์วุฒิสภาของพวกเราในทางที่เสียหาย

 

นายอุปกิต ยังกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า เพื่อเป็นการรักษาเกียรติของครอบครัว ตนเองพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ตนเองยังเชื่อมั่นอยู่ โดยไม่จำเป็นที่จะได้รับการคุ้มครองแต่อย่างใด

 

หลังจากนั้น สมาชิกวุฒิสภาได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง แสดงความเห็นว่าการออกหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นสามารถทำได้ในสมัยประชุมหรือไม่ และเป็นการแทรกแซงระบบนิติบัญญัติหรือไม่ ก่อนที่จะมีการลงมติ

 

จากนั้น ที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติด้วยเสียงข้างมาก 174 :7 เสียง ไม่อนุญาตให้มีการออกหมายเรียกตัว และส่งตัว นายอุปกิต ไปทำการสอบสวน ในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญา ระหว่างสมัยประชุม งดออกเสียง 10 เสียง ในจำนวนผู้ลงมติ 191 เสียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อดิศร” ไหว้ขอโทษ รทสช.กลางสภาฯ หลังพาดพิงบอกสส.ไม่มาประชุมสักคน
"อั้ม อธิชาติ" เปิดใจครั้งแรก ปมเลิก "นัท มีเรีย" จบความสัมพันธ์ 15 ปี เพราะอะไร
“ประเสริฐ” สั่งเข้มป้องกัน-ลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2568 บังคับใช้กม. จัดการ “เมาแล้วขับ” ขั้นเด็ดขาด
นายกฯ เชื่อ "ทำประชามติ" ทันรัฐบาลชุดนี้ ย้ำไม่ต้องคุย ภท. หลังโหวตสวน
ทัพอากาศเยี่ยมชมศูนย์สุขภาพโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
"บิ๊กเต่า" เผยปม “ไร่ภูนับดาว” คืบหน้า 80% จ่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ย้ำอย่าโยงการเมือง
สภาทต.ท่าพริกเนินทรายประชุมสมัยวิสามัญ ให้ นายกทต.ท่าพริกฯแถลงนโยบายบริหารงาน หลังได้รับเลือกตั้ง ประกาศพัฒนา 5 ด้านให้เมืองเจริญ
บูรณาการ ร่วม บุกทลายแก๊ง เงินกู้ และ จำนำรถ ยึดอาวุธปืนและรถเพียบ
“เชน ธนา” รอดนอนคุก คดีร่วมกันฉ้อโกง 79 ล้าน ศาลให้ประกันตัว ตีวงเงิน 1 ล้าน
จับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ กว่า60 ลัง มูลค่าเกือบ10 ล้านบาทริมชายแดนเตรียมขายปีใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น