วันที่ 10 ต.ค. 66 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte” โดยระบุข้อความว่า แลนด์บริดจ์ อย่าให้ผิดหวังซ้ำซาก หลายคนไม่รู้ว่า ก่อนมีโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ที่กำลังอยู่ในความสนใจในขณะนี้นั้น ได้มีโครงการแลนด์บริดจ์ กระบี่-ขนอม, แลนด์บริดจ์ ปีนัง-สงขลา และแลนด์บริดจ์ สตูล-สงขลา เกิดขึ้นก่อน แต่ไม่สามารถไปถึงฝั่งฝัน คนที่ลุ้นให้โครงการแลนด์บริดจ์เป็นรูปธรรมเสียทีก็คงหวั่นวิตกว่าจะผิดหวังซ้ำซากอีกหรือไม่ ?
1. แลนด์บริดจ์คืออะไร ?
แลนด์บริดจ์หรือสะพานเศรษฐกิจ เป็นการเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำด้วยการขนส่งทางบกผ่านถนน ทางรถไฟ และ/หรือท่อส่งน้ำมัน ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จะสร้างแลนด์บริดจ์ที่ไหนก็ได้ที่มีการเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำกับทางบก สำหรับของไทยจะสร้างแลนด์บริดจ์เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างทะเลอันดามันกับอ่าวไทย ซึ่งหวังว่าจะช่วยร่นระยะทางการเดินเรือระหว่างฝั่งตะวันตกและตะวันออกของไทย
ในปัจจุบัน การขนส่งระหว่างฝั่งตะวันตกและตะวันออกของไทยเรือขนส่งจะต้องแล่นอ้อมช่องแคบมะละกาซึ่งอยู่ระหว่างสิงคโปร์กับเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย หรือช่องแคบซุนดาซึ่งอยู่ระหว่างเกาะสุมาตรากับเกาะชวา หรือช่องแคบลอมบอกซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะชวา
2. แลนด์บริดจ์โครงการแรกไปถึงไหน ?
แลนด์บริดจ์โครงการแรกคือ แลนด์บริดจ์ กระบี่-ขนอม โดยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2536 (รัฐบาลชวน หลีกภัย) ครม. มีมติเห็นชอบให้ก่อสร้างถนนสายกระบี่-ขนอม หรือทางหลวงหมายเลข 44 หรือที่เรียกกันว่าถนนเซาเทิร์นซีบอร์ด เป็นถนน 4 ช่องจราจร มีเขตทางกว้าง 200 เมตร (กันพื้นที่ตรงกลางไว้สำหรับก่อสร้างทางรถไฟ ท่อส่งน้ำมัน และท่อส่งก๊าซธรรมชาติ)ระยะทาง 133 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างทางหลวงนี้เมื่อต้นปี 2542 (รัฐบาลชวน หลีกภัย) และสร้างเสร็จในเดือนกันยายน 2546 (รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร) ใช้งบประมาณ 3,500 ล้านบาท
ปี 2538 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้ศึกษาพบว่าโครงการแลนด์บริดจ์ กระบี่-ขนอม จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้เสนอให้ย้ายที่ตั้งท่าเรือไปยังตำแหน่งที่มีผลกระทบน้อยที่สุด
ปี 2540 ครม. มีมติกำหนดที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกฝั่งทะเลอันดามันที่บ้านทับละมุ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และฝั่งอ่าวไทยที่บ้านบางบ่อ อ. สิชล จ.นครศรีธรรมราช
โครงการไม่คืบหน้าเท่าที่ควรเนื่องจากขาดงบลงทุน และประสบวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 มีบางโครงการที่ได้ดําเนินการไปแล้ว เช่น ถนนเซาเทิร์นซีบอร์ด โครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติบงกช – เอราวัณ – ขนอม โครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติขนอม และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่อำเภอขนอม
วันที่ 2 กันยายน 2546 (รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร) ครม. มีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาค โดยมีแลนด์บริดจ์เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญ แต่ระหว่างดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ประชาชนในพื้นที่คัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก จนในที่สุดโครงการได้ถูกยกเลิกไป ทำให้ไม่สามารถดำเนินโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไปได้
3. แลนด์บริดจ์โครงการที่ 2 คืบหน้ามั้ย ?
แลนด์บริดจ์โครงการที่ 2 คือแลนด์บริดจ์ ปีนัง-สงขลา โดยในปี 2537-2538 ภาคเอกชนของมาเลเซียผลักดันโครงการนี้ขึ้นมาตามกรอบการพัฒนา IMT-GT (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle) มีเป้าหมายที่จะให้มีการเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างปีนัง-สงขลา ด้วยท่อส่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ มอเตอร์เวย์ และรถไฟทางคู่ แต่อย่างไรก็ตาม แลนด์บริดจ์ ปีนัง-สงขลา ก็ยังไม่คืบหน้า