ภาคท่องเที่ยว ชงเพิ่มวีซ่าฟรีอินเดีย-ไต้หวัน แนะรัฐเปิดกว้างใช้เงินดิจิทัล

นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย คาด 3 เดือนที่เหลือ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 9 ล้านคน ชี้มาตรการวีซ่าฟรีตอบโจทย์นักท่องเที่ยว จีน และคาซัคสถาน ประเมินเหตุยิงที่สยามพารากอน กระทบรายได้กว่า 5 หมื่นล้านบาท เสนอเพิ่มวีซ่าฟรี ดึงนักท่องเที่ยวอินเดีย ไต้หวัน กลุ่มที่มีศักยภาพ แนะภาครัฐ เปิดกว้างใช้เงินดิจิทัลในภาคการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกิตติ พรศิวะกิจ นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย (ATTM) และบอร์ดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว TOPNEWS ถึงภาพรวมการท่องเที่ยว ว่า ในภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ประมาณกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน โดยครึ่งปีแรกรวมกว่า 13 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย และจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 17 ล้านคนในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเดือน ก.ค. มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยประมาณ 2.5 ล้านคนต่อเดือน โดยปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้ตามเป้าหมายที่ 28-30 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีกระแสข่าวในโซเชียลของประเทศจีนที่มีการเผยแพร่ว่า หากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอาจจะถูกลักพาตัวโดยกลุ่มจีนสีเทา รวมถึงมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่มีการเปิดตัวเมื่อช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ( เรื่อง No More Bets มีเนื้อหาเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์และแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ต้มตุ๋นทางออนไลน์ที่หาเหยื่อไปร่วมขบวนการจากนทท.จีนที่เข้ามาในแถบเอเชียตอ.เฉียงใต้ )

 

 

นายกิตติ ระบุว่า สำหรับนักท่องเที่ยวจีน ไทยเพิ่งเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเมื่อเดือนม.ค.66 โดยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในช่วงแรก กว่า 90,000 คน และเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 แสนคน และ 2.7 แสนคน และหลังจากนั้นจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 3 -4 แสนคน มาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน ตามมาตรการวีซ่าฟรี ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 – 29 ก.พ. 67 ในช่วงสัปดาห์แรกตัวเลขก็ยังไม่ถึง 3 แสนคน แต่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 70-80% อยู่ที่ประมาณกว่า 1.7 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งถือว่าได้ผลในการดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย เนื่องจากในช่วงต้นสัปดาห์แรกๆ ของเดือนก.ย. นักท่องเที่ยวชาวจีนปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 7,000 คนต่อวัน จากปกติ 13,000 คนต่อวัน

 

 

นายกิตติ ระบุถึง มาตรการวีซ่าฟรี จีน และคาซัคสถาน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุยิงกลางห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกมั่นใจว่า มาตรการ วีซ่าฟรี จีน และคาซัคสถาน ได้ผลดี จากตัวเลขนักท่องเที่ยวในสัปดาห์แรกที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คาดการณ์นักท่องเที่ยวปีนี้สูงสุดที่ 30 ล้านคน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น จึงมองว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาและดีที่สุดจะอยู่ที่ 29 ล้านคน โดยในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปี (ต.ค.-ธ.ค.66) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 9 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์ยิงกลางห้างฯ มีผลกระทบเกิดขึ้นมาก เหมือนเช่นเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุชาวต่างชาติ ที่ได้รับผลกระทบจำนวนการจอง หรือ Booking จะหายไปกว่าครึ่งของยอดจองที่เข้ามา ซึ่งอาจทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้กลับมาอยู่ที่ 28 ล้านคนได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายกิตติ ระบุถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวหลังเกิดเหตุยิงกลางห้าง นอกเหนือจากการรับผิดชอบและเยียวยา ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้มีการตั้งทีมทำงานขึ้นมา และเพจ อ้ายจง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องโซเชียลจีนถึงกระเเสที่เกิดขึ้น พร้อมเชิญผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มาร่วมทีม และดึงผู้ที่มีความรู้เรื่องดิจิทัลมาร่วมมาดูแลเรื่องนี้ ในการสร้างความเชื่อมั่นและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว

ขณะที่ ในส่วนของนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน ซึ่งชื่นชอบมาเที่ยวไทยโดยเฉพาะจ.ภูเก็ต มีการเติบโตเป็นไปอย่างก้าวกระโดด จากช่วงก่อนและหลังโควิด -19 จะอยู่ที่ 5-6 หมื่นคนต่อปี และปีนี้ เข้ามาไทยแล้วประมาณ 1.1 แสนคน โดย 9 หมื่นคน ได้เดินทางไปเที่ยวภูเก็ต และมีไฟลท์บินตรงไปภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ถือว่ามาตรการวีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวคาซัคสถานตอบโจทย์การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และมั่นใจปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 แสนคนต่อปี และเดือนละ 1.5 หมื่นคน และในปี 67 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนคน

นอกจากนี้ นายกิตติ ได้เสนอการขยายมาตรการวีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดีย จากจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียที่เข้ามาไทย ติด 1 ใน 5 อันดับแรก โดยช่วงก่อนโควิด-19 ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียเติบโตเร็วมากถึง 20% จากเดิมที่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ขยายเป็น 1.6 ล้านคน และรอบ 9 เดือนปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียอยู่ที่ 1.1 ล้านคน โดยยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอีกจำนวนมาก

 

 

สำหรับนักท่องเที่ยวอินเดียที่จะเข้ามาไทย จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1. กลุ่มแต่งงานที่เฉลี่ยจะใช้เงินประมาณ 30 ล้านบาท และบางกลุ่มจะใช้เงินในการจัดแต่งงานประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเข้ามาไทยประมาณ 400 -500 กลุ่มต่อปี แต่ในช่วงหลังการเข้ามาไทยทำได้ค่อนข้างยากจึงทำให้กลุ่มแต่งงานหันไปจัดงานที่ประเทศอื่นแทน ซึ่งหากสามารถดึงกลุ่มแต่งงานกลับมาได้ 500 กลุ่ม จะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้กว่า 15,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเหตุยิงที่ห้างพารากอน ที่อาจทำให้ประเทศไทยเสียรายได้ไปกว่า 5 หมื่นล้านบาท ดังนั้น หากมีวีซ่าฟรีจะทำให้ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เข้ามาไทยชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปได้

2. กลุ่มทั่วไป กลุ่มนี้การใช้จ่ายจะน้อยกลุ่มแต่งงานอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นบาทต่อหัว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว เดือนพ.ย.ของอินเดีย (งานดิวาลี) ที่คนอินเดียจะหาสถานที่ท่องเที่ยวนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าไทยได้เดือนละประมาณ 1 แสนคน ถ้าเปิดวีซ่าฟรี 5 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ย.66- มี.ค.67 ก็จะสร้างรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

 

 

นอกจากนี้ ควรที่จะมีการดำเนินมาตรการวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวไต้หวัน ซึ่งอยู่ในลิสต์นักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง คาดว่าหากมีมาตรการ 5 เดือน จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 4 หมื่นคนต่อเดือน จะสร้างรายได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

ส่วนแนวทางขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 1 ของกระทรวงมหาดไทยนั้น นายกิตติ ระบุว่า หลายๆ ประเทศได้มีการเปิดโซนนิ่ง บางที่จนถึง 6 โมงเช้า โดยมีมาตรการกวดขันในเรื่องของความปลอดภัยและวินัยในการเดินทางอย่างเข้มงวด และมองว่าหากสามารถขยายเวลาเปิดให้บริการสถานที่ท่องเที่ยวได้ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดสถานที่ท่องเที่ยวไทยจึงปิดเที่ยงคืน ทำให้ นักท่องเที่ยวหลายกลุ่มหันไปท่องเที่ยวประเทศอื่นแทน

 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับผู้มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ในมุมมองของภาคการท่องเที่ยวคิดเห็นอย่างไร นายกิตติ ระบุว่า ในส่วนของงบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท เดิมนโยบายได้กำหนดให้ประชาชนได้นำเงินกลับไปใช้ยังภูมิลำเนา ทำให้มีเสียงจากผู้ประกอบการสะท้อนมาว่า เหตุใดจึงไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถนำเงินดิจิทัล มาใช้กับภาคการท่องเที่ยวด้วย เพื่อทำให้เม็ดเงินดังกล่าวกระจายได้หลายต่อ เพราะจากข้อมูลหลายฝ่ายบอกว่าหากเป็นการใช้ในพื้นที่เม็ดเงินจะหมุนเวียนเพียงหนึ่งรอบกว่าเท่านั้น ไม่ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ แต่หากนำไปใช้ในภาคการท่องเที่ยวที่มีซัพพลายเชนยาว ก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินได้หลายรอบ พร้อมเสนอภาครัฐ หากมีการใช้นโยบายเงินดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถนำไปใช้ในการท่องเที่ยวด้วย ก็จะเป็นตอบโจทย์ของรัฐบาลในเนื่องการหมุนเงินในระบบเศรษฐกิจอีกทางด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เท้ง ณัฐพงษ์" ข้องใจ ปมกกต. ฟันอาญา สส.ชลบุรี พรรคปชน. แจ้งบัญชีใช้จ่ายเท็จ โวยกลั่นแกล้งการเมือง แค่ข้อหาเล็กน้อย
รวบหนุ่มมะกันเผาผู้โดยสารหญิงในซับเวย์นิวยอร์ก
"นายกฯ" ไม่โกรธฉายาครม.ปี 67 มองเป็นสีสัน ลั่น "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" ก็ดีช่วยทำงาน เพราะพ่อมีประสบการณ์
"นายกฯ" อวยพรปีใหม่คนไทย ขอให้มีความสุขเรื่องใกล้ตัว บอกปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะทำเต็มที่
ทร.เอาจริง! ติดเขี้ยวเล็บให้ปชช.แนวชายแดน สอนจับปืน-ศัตรูมาพร้อมซัดโป้ง
คดีสังหาร สจ.โต้ง ส่อบานปลาย คลิปเสียงโผล่อีกไขปมยิง โยงเงินปริศนา 70 ล้าน
"อดีตสว.สมชาย" ชี้ฝ่ายอนุรักษ์เดินหมากผิด เปิดโอกาส"ระบอบทักษิณ"ฟื้นชีพรอบวกส้ม
ม่วนกรุ๊ป เริ่มแล้ว เทศกาลตีคลีไฟชัยภูมิ หนึ่งเดียวในโลก 1 ครั้งในรอบปี สุดคึกคัก
ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น