วันที่ 10 ต.ค.66 ที่บ้านพักของนายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ กรณีที่พรรคก้าวไกล ยื่นร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองเข้าสภา ย้อนหลังตั้งแต่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ปี 2549 ถึงปัจจุบัน ว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมามีการเสนอเพื่อสร้างความปรองดองมาแล้ว 23 ครั้ง การเสนอครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อดูนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ได้มุ่งเน้นที่จะสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง หากรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีความ “จริงใจ” ก็สามารถทำได้ ส่วนที่ร่างฯเสนอนี้ ไม่ครอบคลุมคน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม การทำผิดต่อชีวิต เว้นแต่การกระทำผิดโดยประมาท การกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ นายถาวร กล่าวว่า ความคิดจริงๆที่พรรคก้าวไกลคือการนิรโทษกรรม คือ ผู้ที่กระทำความผิดในมาตรา 112 จึงเป็นคำถามว่า พรรคก้าวไกลเองมีความจริงใจหรือไม่ที่จะเสนอพ.ร.บ.นิโทษกรรมนี้
นายถาวร กล่าวยืนยัน ไม่เห็นด้วย “การนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดในมาตรา 112 ตนไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด” เนื่องจากมาตรา 112 เป็นมาตราที่บัญญัติขึ้นเหมือนกับรัฐอื่นๆที่ปกครองประมุขแห่งรัฐ และทุก ๆ การปกครองในรูปแบบต่าง ๆ ประมุขแห่งรัฐต้องได้รับการคุ้มครองมากกว่าบุคคลธรรมดา และประเทศไทยก็บัญญัติไว้เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ประเทศที่มีการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์ 26 ประเทศในโลก ก็มีบทบัญญัติที่ว่าด้วยการลงโทษผู้ที่ดูหมิ่น หมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้าย ประมุขแห่งรัฐหรือพระมหากษัตริย์ของประเทศนั้น ๆ
ส่วนการตั้งคณะกรรมการชี้ขาดนิรโทษกรรม ขึ้นมาทั้ง 9 คน ซึ่งบุคคลที่แต่งตั้งขึ้นมาคือประธานรัฐสภา นายถาวร ระบุว่า เรื่องนี้ต้องเข้าไปแปรญัตติในวาระสอง สาม ว่า คณะกรรมการทั้ง 9 คนในร่างนี้ สภาเสียงข้างมากเห็นด้วยหรือไม่ หรือจะแต่งตั้งบุคคลใดเพิ่มเติม หรือไม่เอาแนวนี้ ซึ่งตนคิดว่ารายละเอียดดังกล่าวต้องมีการแก้ไขแน่นอน