"อิสราเอลปาเลสไตน์" อิสราเอลประกาศ ยึดพื้นที่ฉนวนกาซาคืนจากกลุ่มบาฮามาสสำเร็จ หลังสู้รบต่อเนื่องเป็นวันที่ 4
ข่าวที่น่าสนใจ
“อิสราเอลปาเลสไตน์” หลังจากกองทัพอิสราเอลได้ระดมทหารกองหนุนเพิ่ม 300,000 นาย พร้อมระดมรถถังและยานเกราะหนัก ไปยังฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้กับกลุ่มฮามาส รวมถึงเคลื่อนกำลังไปบริเวณชายแดนตอนเหนือ ติดกับเลบานอนเ พื่อตอบโต้กับกลุ่มฮิซโบเลาะห์ ซึ่งเกิดการยิงตอบโต้กันไปมาอยู่ตลอดเวลา
ต่อมากองทัพอิสราเอลได้ประกาศว่า สามารถยึดคืนพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้และชายแดนรอบฉนวนกาซาได้แล้ว และขับไล่นักรบฮามาสที่ยึดครองเมืองกว่า 10 แห่ง รวมถึงเมืองคิบบุตซิม อีกทั้งรายงานว่า พบศพของนักรบกลุ่มฮามาสอีกประมาณ 1,500 ศพรอบ ๆ ฉนวนกาซา
นอกจากนี้ อิสราเอลยังกล่าวว่า ได้ระดมยิงจรวดชุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เตือนว่า การโจมตีเมื่อวันเสาร์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสงครามที่ยืดเยื้อ เพื่อทำลายกลุ่มฮามาส และสงครามครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงตะวันออกกลางไปอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลพุ่งสูงกว่า 900 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ฉนวนกาซารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 900 รายเช่นกัน
ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้ประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสว่า เป็นความชั่วร้าย และยืนยันว่า มีชาวอเมริกันอย่างน้อย 14 คนถูกสังหาร และคนอื่น ๆ ยังสูญหาย ซึ่งขณะนี้สหรัฐได้ส่งเรือรบและความช่วยเหลืออื่น ๆ รวมถึงแบ่งปันข่าวกรองให้แก่อิสราเอล
ส่วนประเทศต่างๆที่มีรายงานว่าพลเมืองถูกสังหาร ลักพาตัว หรือสูญหายขณะนี้ รวมถึง บราซิล กัมพูชา แคนาดา ไอร์แลนด์ เม็กซิโก เนปาล ปานามา ปารากวัย รัสเซีย ศรีลังกา ไทย และยูเครน โดยฮามาสได้ควบคุมตัวเชลยไว้ประมาณ 150 คน พร้อมขู่เมื่อวันจันทร์ว่า จะเริ่มสังหารตัวประกันทุกครั้งที่อิสราเอลโจมตีพลเรือนในฉนวนกาซา โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
ขณะที่ความหวาดกลัวและโกลาหลได้ครอบงำชาวปาเลสไตน์ 2.3 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซา ซึ่งถูกโจมตีด้วยจรวดอิสราเอลหลายพันลูก อีกทั้ง อิสราเอลเข้าปิดล้อมทั้งหมด พร้อมตัดน้ำ อาหาร ไฟฟ้า และเสบียงที่จำเป็นอื่น ๆ ทำให้เวชภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงออกซิเจนในโรงพยาบาลในฉนวนกาซาขาดแคลน
ทำให้นายโวลเกอร์ เติร์ก หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า การปิดล้อมดังกล่าวเป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ส่วนสหภาพยุโรปเรียกร้องให้เปิดเส้นทางมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่พยายามหลบหนี โดยสหประชาชาติระบุว่า ผู้คนมากกว่า 187,500 คนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในฉนวนกาซา ซึ่งส่วนใหญ่ต้องลี้ภัยอยู่ในโรงเรียนของสหประชาชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง