“อาจารย์อุ๋ย” จี้ สส.ก้าวไกลฉาว แชตคุกคามสาว แสดงสปิริตลาออก

“อาจารย์อุ๋ย” จี้ สส.ก้าวไกลฉาว แชตคุกคามสาว แสดงสปิริตลาออก

จากกรณีที่ สส. พรรคก้าวไกล ส่งข้อความเชิงคุกคามทางเพศไปยังอาสาสมัคร ซึ่งล่าสุดทางพรรคก้าวไกลออกมายอมรับแล้วว่ามีมูลและกำลังดำเนินการพิจารณาทางวินัยและจริยธรรมนั้น

ล่าสุด นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เขตบางกะปิ ได้ให้ความเห็นว่า การกระทำของ สส. คนดังกล่าว เข้าลักษณะคุกคามทางเพศในที่ทำงาน (Workplace Sexual Harassment) ซึ่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 กำหนดว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท

ข่าวที่น่าสนใจ

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัลหรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสองเป็นการกระทำโดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือผู้ถูกกระทำอันเนื่องจากความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา นายจ้าง หรือผู้มีอำนาจเหนือประการอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท”

จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็น สส. กระทำต่อทีมงานอาสาสมัคร จึงเข้าข่ายเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ โดยอาศัยความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจเหนือประการอื่นตามมาตรา 397 วรรคท้าย จึงต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท นอกจากนี้จากข่าวปรากฏว่าแชทดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับการโฆษณาเสนอขายสินค้าอุปกรณ์หรือของเล่นลามกอนาจาร ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 ฐานโฆษณาและประกอบการค้าวัตถุลามกอนาจาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 10 ยังกำหนดอีกว่า สมาชิกและกรรมาธิการต้องรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงของสภาผู้แทนราษฎร และไม่กระทำการใด ๆ อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของประเทศชาติและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็เข้าข่ายทำให้สภาผู้แทนเสื่อมเสียเกียรติเช่นกัน

ตนจึงอยากให้ สส. คนดังกล่าวตัดสินใจลาออกจากการเป็น สส. และสมาชิกพรรค โดยไม่จำต้องรอให้คณะกรรมการของพรรคพิจารณาจนแล้วเสร็จ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเองโดยเร็ว เพื่อไม่ให้สภาผู้แทนราษฎรและพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัดต้องมัวหมอง นอกจากนี้ยังถือเป็นการแสดงสปิริตให้สมกับที่พรรคการเมืองดังกล่าววางจุดยืนว่าเป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิชัย" หารือ "รมต.พาณิชย์-อุตสาหกรรม" บาห์เรน ยกระดับสัมพันธ์การค้า จัดทำ FTA เชื่อม 2 ปท.
‘ซัวเถา’ จัดมหกรรมดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่รับตรุษจีน
เม็กซิโก-แคนาดา-จีนประกาศสงครามการค้ากับสหรัฐ
ทรัมป์ไฟเขียวกำแพงภาษีแคนาดา เม็กซิโกและจีนแล้ว
สรุปผล 47 นายกอบจ. "เพื่อไทย" คว้าชัย 10 ที่นั่ง "ภูมิใจไทย" 9 สู้สูสี "ปชน." ได้แค่ 1 ที่
ผู้โดยสารดับยกลำจากเหตุเครื่องบินกู้ชีพตกที่สหรัฐ
ทบ.ร่วม สตช. ประสานเมียนมา ช่วยเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวฮ่องกง 1 ราย
พรรคปชน.ช้ำ! ส่งเลือกตั้งนายกอบจ.17 จังหวัด คว้าชัยแค่ลำพูน
รวมไทยสร้างชาติ คว้าชัยนายกอบจ. 5 จังหวัด
"นิด้าโพล" เผยคนกรุงฯส่วนใหญ่ ชี้ขึ้นฟรีรถไฟฟ้า-เมล์ขสมก.ลดฝุ่นไม่ได้ผล มาตรการรัฐขาดประสิทธิภาพ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น