นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงคดี “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ว่า ในวันที่ 2 ก.ย. ทางกมธ.กฎหมายจะเชิญพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาชี้แจงในเรื่องด้วยตัวเอง เพราะเป็นคนนำการแถลงและพูดคุยกับผู้ต้องหาอย่างเป็นกันเอง ฉะนั้นท่านน่าจะตอบคำถามได้ทุกข้อ วันนี้ความเชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติแทบจะล่มสลายแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ในฐานะผู้นำสูงสุดที่จะต้องกอบกู้วิกฤตศรัทธากลับคืนมา และคดีนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เมื่อผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชาชนที่ถูกกระทำ จะได้รับความยุติธรรมหรือไม่
นายสิระ กล่าวต่อว่า การแถลงข่าวของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ต่อคดีนี้ยังเป็นข้อสงสัยให้คนในสังคมอยู่หลายข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเบรกสื่อมวลชนไม่ให้ตั้งคำถามต่อผู้ต้องหา แต่ในขณะเดียวกับกลับให้ผู้ต้องหาตอบคำถามในลักษณะเป็นการแก้ตัว ชักจูงสังคมให้เห็นใจและคล้อยตาม รวมถึงเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง เหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่ได้ถูกคลี่คลายให้หายสงสัยจากปากของพล.ต.อ.สุวัฒน์ รวมถึง การที่ท่านจัดการแถลงข่าว นำผู้ต้องหาฆ่าคนตายอย่างทรมาน มาแถลงข่าวเอาความดีความชอบ ทวงบุญคุณกับคนนครสวรรค์ เรื่องนี้ท่านต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยการขอโทษคนจังหวัดนครสวรรค์ด้วย อย่าให้การแถลงข่าวครั้งนี้ เหมือนให้ผู้ร้ายกลายเป็นพระเอก
“ในฐานะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ มีหัวโขนอีกใบเป็นสมาชิกวุฒิสภา นั่นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งกรรมาธิการทุกคณะเป็นตัวแทนของประชาชน ที่ส่งมาทำหน้าที่แทน แต่ถ้า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไม่เคารพการทำหน้าที่ของกรรมาธิการ เพิกเฉยต่อการมาชี้แจงกับกรรมาธิการ ไม่ให้เกียรติกัน ผมก็มีคำถามว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังควรปฎิบัติหน้าที่ในฐานะวุฒิสมาชิกต่อไปหรือไม่ ในเมื่อท่านไม่ได้ให้ความเคารพต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ผมจึงเห็นว่าถ้าท่านไม่มีความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ในรัฐสภา ควรพิจารณาตัวเอง ตอนนี้พ่อผู้เสียชีวิตเขามีความหวาดระแวง กลัวว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งได้ฝากผมไว้ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในการทำหน้าของกรรมาธิการ ผมก็ขอรับปากว่าจะทำหน้าที่ให้อย่างเต็มที่ เรียกร้องความเป็นธรรมคืนให้กับประชาชนให้ได้”นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวต่อว่า ตอนนี้คนส่วนหนึ่งในสังคมที่ตั้งกลุ่มในโซเชียลขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจผู้กำกับโจ้ ต้องพิจารณาพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดให้ถี่ถ้วนว่า คน ๆ นี้เป็นคนสับปลับหรือไม่ ตอนมอบตัวยอมรับผิดทุกข้อกล่าว แต่พอเข้าชั้นสืบสวนกลับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา นอกจากนี้ เมื่อสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ ตนมีความกังวลต่อความปลอดภัยของพ่อผู้เสียชีวิต จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยของคนในครอบครัวนี้ด้วยเพราะไม่รู้จะถูกอุ้มฆ่าอีกรายหรือไม่ รวมถึงขอเรียกร้องไปยังกระทรวงยุติธรรมให้เข้ามาเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตและผู้เสียหายทางคดีอาญาด้วย