ภายหลังจากกระทรวงสาธารณสุขในดินแดนปาเลสไตน์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 500 ราย จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ที่โจมตีเข้าที่โรงพยาบาลอัล อาห์ลี อาหรับ ในฉนวนกาซาตอนกลาง และยังมีเหยื่ออีกหลายร้อยคน ยังคงติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน ทั้งนี้ สำนักงานสื่อของรัฐบาลฮามาสในฉนวนกาซา ได้เรียกการโจมตีดังกล่าวว่าเป็น อาชญากรรมสงคราม
ขณะเดียวกัน นายทอมมาโซ เดลลา ลองกา โฆษกของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (หรือ IFRC) ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CGTN ของจีนว่า สถานการณ์ย่ำแย่ลงมาก ทีมงานของตนซึ่งขณะนี้อยู่ในฉนวนกาซา ได้ใช้คำว่า หายนะ สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ โดยในบางพื้นที่ของโรงพยาบาลไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งส่วนที่ต้องการใช้ไฟฟ้ามากที่สุดคือ ห้องไอซียู และตู้อบสำหรับเด็กทารก สถานการณ์ตอนนี้คือไม่มียา อาหาร และน้ำก็ขาดแคลน สต๊อกทั้งหมดกำลังจะหมดลง
ต่อมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่าเขารู้สึกโกรธเคืองต่อเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซา ที่สังหารชีวิตผู้คนไปราว 500 ราย พร้อมเผยว่าได้สั่งการให้คณะทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผมขุ่นเคืองและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลอัล อาห์ลี อาหรับ ในกาซา ซึ่งเป็นผลให้เกิดความสูญเสียอันอันเลวร้าย” ไบเดน กล่าวระหว่างออกเดินทางไปอิสราเอล ว่าสหรัฐฯ ยืนหยัดชัดเจนต่อการปกป้องชีวิตพลเรือนระหว่างความขัดแย้ง และเราเศร้าโศกที่พวกคนไข้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และผู้บริสุทธิ์อื่นๆ ต้องมาเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้