นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิดเผยว่า วันที่ 30 สิงหาคมนี้ ได้รับรายงานว่า องค์การเภสัชกรรม จะลงนามจัดซื้อชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท หรือ ATK ชนิดตรวจด้วยตัวเอง จำนวน 8.5 ล้านชุด วงเงิน 1,014 ล้านบาท ตามโครงการพิเศษของ สปสช. กับบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลในราคาต่ำที่สุดชุดละ 70 บาท เมื่อมีการลงนามและส่งมอบATKแล้ว คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะหารือและวางแผนการกระจายไปให้กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะสรุปพื้นที่เป้าหมายกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทราบว่า จะเน้นที่ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ชุมชนแออัด ตลาด 2.สถานพยาบาลเพื่อแจกให้ประชาชน และ 3.ร้านขายยา หรือคลินิก หรือห้องปฏิบัติการ เป็นต้น โดยให้ผูกโยงกับสถานพยาบาล เพื่อดูแลกรณีหากตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ต่อไป และขณะนี้กำลังร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการจัดทำข้อมูลเพื่อระบุตัวผู้รับชุดตรวจATKไปตรวจเองที่บ้าน ผลเป็นอย่างไร อาจจะเข้าระบบ “เป๋าตังค์” เป็นต้น รวมถึงพิจารณาว่า หากเป็นกลุ่มเสี่ยงจริงๆ อาจจะให้มีไรด์เดอร์ หรือผู้นำส่งชุดตรวจไปให้ที่บ้านแทนการให้กลุ่มเสี่ยงออกมานอกบ้าน คาดว่าประมาณ 2 วันนี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้
ส่วนหลังการใช้ATK ล็อต 8.5 ล้านชุดแล้ว จะพิจารณาจัดซื้อเพิ่มเติมหรือไม่ นายแพทย์จเด็จ กล่าวว่า เดิมสปสช.พิจารณาว่าATK 8.5 ล้านชุดนี้ เป็นโครงการนำร่อง แล้วเมื่อผลการประเมินออกมาว่าดี อาจจะซื้อแจกประชาชนเพิ่มเติมนั้น แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลง เพราะกรมบัญชีกลาง ส่งหนังสือถึงหน่วยงานราชการ ระบุว่าสามารถซื้อชุดตรวจATKได้เอง ดังนั้นในส่วนของสปสช. หากพิจารณาหลังจากนี้ อาจจะเป็นการจัดหาให้เฉพาะกับกลุ่มเปราะบางที่เข้าไม่ถึงชุดตรวจเอทีเคเท่านั้น ซึ่งต้องหารือกันอีกครั้ง