นี่เป็นรูปภาพของหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกสามีของเธอทำร้ายร่างกายถูกตบจนคิ้วแตก ตาบวมช้ำ หน้าบวม ถือเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีเอาผิดกับสามีของเธอ ต่อมาเธอจึง ขอความช่วยเหลือไปที่มูลนิธิเป็นหนึ่ง จนนำมาสู่การเรียกร้องขอความเป็นธรรม
สาวนักธุรกิจออกมาแฉถูกสามีสมาชิกชิกพรรคก้าวไกล ทำร้ายเจ็บสาหัส ยืนยันมีหลักฐานการสั่งทำเสื้อพรรค ปัดหวังดิสเครดิตทางการเมือง
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดวันนี้ (18 ต.ค.) นางชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง พร้อมด้วย นางวิไลลักษณ์ ไชยชาญ ผู้เสียหายในรูปภาพ เดินทางมาที่สถานีข่าว Top News เพื่อต้องการให้ Top News เป็นสื่อกลางในการเรียกร้องความเป็นธรรม หลังถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย
นางวิไลลักษณ์ เปิดเผยว่า รู้จักกับสามีตั้งแต่ปี 2552 หรือ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน จนพัฒนาความสัมพันธ์ ถึงขั้นแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ต่างคนต่างมีลูกติดมาด้วยกันทั้งคู่ ช่วงแรกต่างใช้ชีวิตคู่ด้วยความราบรื่น ไม่มีปัญหา สามีของตนเองเป็นนักการเมืองสังกัดพรรคดัง เป็นสามีที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย ทำธุรกิจด้านอาหารสัตว์ร่วมกัน 5 ปี ความสัมพันธ์ช่วงแรกเหมือนจะดี กระทั่งก่อนเกิดเหตุ สามีหายออกจากบ้านไปหลายวัน ติดต่อไม่ได้ ก่อนที่จะกลับมาที่บ้าน เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ตนเองเข้าไปถามสามีด้วยความเป็นห่วงว่า หายไปไหนมา แต่สามีกลับโมโห ด่าว่าเสีย ๆ หาย ๆ ถึงขนาดไล่ให้ตนเองไปตายกับบุพการี ด้วยความโมโห จึงได้เดินไปคว้าตุ๊กตาหินที่อยู่ในโรงรถ ไปทุบใส่กระจกหน้ารถหรูของสามีจนแตกยับ สามีเห็นดังนั้นจึงเข้ามาทำร้ายร่างกาย ด้วยการต่อยเข้าไปที่ใบหน้าจนคิ้วแตก เบาตาช้ำเขียวจนเห็นได้ชัด ไปหาหมอลงความเห็นว่า ได้รับอันตรายสาหัส
หลังจากสามีทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่า มีผลโดยตรงต่อธุรกิจขายอาหารสัตว์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ตนเองกับสามีทำร่วมกัน เพราะต่อมาทราบว่า สามีมีการพยายามนำชื่อของตนเองออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และเปิดบริษัทอาหารสัตว์แห่งใหม่ภายใต้ชื่อใหม่ โดยใช้ชื่อลูกชายของเขา ซึ่งเป็นลูกติดให้มาเป็นบุคคลที่ 3 ถือหุ้น 90 % ส่วนฝ่ายสามีถือหุ้นเพียง10% โดยมีการโอนย้ายทรัพย์สินจากบริษัทตนเองมาไว้ที่บริษัทใหม่ ตัดรายได้ตนเองทุกช่องทาง เรื่องดังกล่าวทำให้เกิดจะรับได้
เท่านั้นไม่พอ สามียังแจ้งความตนเอง 3 ข้อหาด้วยกัน ข้อหาแรก “ทำร้ายทรัพย์สิน” ข้อหา 2 “ลักทรัพย์” เนื่องจากตนเองเคยไปกดตู้เซฟ เพื่อที่จะนำของในตู้เซฟออกมาประทังชีวิต ส่วนข้อหาสุดท้าย ตนงงหนักมาก เพราะสามีแจ้งข้อหาว่า ตนเองมีชู้ ส่วนเรื่องที่สามีเป็นนักการเมืองก่อนหน้านี้ เคยบอกสามีไปแล้วว่า อย่าลงเล่นการเมืองเลย แต่ก็ห้ามไม่ได้ แต่สามีก็แอบไปลงสมัคร ซึ่งตนเองมีหลักฐานเป็นการสั่งทำเสื้อพรรคการเมืองดังกล่าว ซึ่งเป็นเงินจากสินสมรสของตนเองและสามี ส่วนสาเหตุไม่อยากให้ลงเล่นการเมืองเพราะว่า การประกอบธุรกิจส่วนตัวก็ดีอยู่แล้ว หากไปเล่นการเมืองมีแต่เสียกับเสีย ขณะที่คดีความตนเองได้ฟ้องร้องสามีไปแล้ว โดยคดีอยู่ในชั้นศาล แบ่งเป็นคดีฟ้องหย่าแบ่งทรัพย์สิน และคดีทำร้ายร่างกาย
หลังเกิดเรื่องได้แยกกันอยู่กับสามี ตอนนี้เครียดหนักมาก เพราะว่าลูกชายใกล้จะเปิดเทอมแล้ว เคยถามลูกว่า ย้ายโรงเรียนได้ไหม ลูกตอบกลับมาว่า “อย่าย้ายเลยคุณแม่” เพราะสังคมของเขาอยู่ตรงนั้น อีกทั้งลูกของตนเองก็เป็นผู้พิการ จึงไม่อยากเริ่มสังคมใหม่ ๆ อีกแล้ว
ด้าน น.ส.ชลิดา เปิดเผยว่า ตอนนี้กลุ่มเป็นหนึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานที่จะฟ้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร, การโอนย้ายชื่อของคุณลักษณ์เข้าออกภายในบริษัทถึง 13 ครั้ง โดยที่คุณลักษณ์ไม่ทราบเรื่อง อีกทั้งคุณลักษณ์เป็นคนในองค์กรเป็นหนึ่ง ตนยืนยังจะช่วยเหลือให้เต็มที่ที่สุด ใช้หลักฐานข้อกฎหมายช่วย รวบรวมพยาน และอยากบอกว่า การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการโจมตีหรือดิสเครดิตทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการเรียกร้องสิทธิของผู้หญิงเรียกร้องความเป็นธรรมเพราะเป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ฝากไปบอกฝ่ายชายด้วยว่าไม่ว่าจะเป็นสีไหนก็ไม่ควรมีพฤติกรรมแบบนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-