“กินเจ 2566” อิ่มบุญ อิ่มใจ แจก 5 เคล็ดลับกินยังไง ไม่ให้ไตพัง

5 เคล็ดลับ “กินเจ 2566” พักไต ด้วยการลดเค็ม

1. เลือกทำกับข้าวเอง

• ปรุงแต่พอดี ลดหวานมันลดเค็มเพื่อสุขภาพ
• แต่ถ้าจะซื้อกินควรหลีกเลี่ยงอาหารพวกน้ำแกง น้ำซุป ไม่ว่าจะเป็นพะโล้หรือแกงจืด หรือถ้าจำเป็นต้องกินพะโล้จริง ๆ ก็พยายามลดการเอาน้ำแกงมาราดข้าว หรืออย่าซดน้ำแกง เพราะ โซเดียมมักมีอยู่ในนั้น

2. เลือกกินผลไม้

• บางครั้งกินเจแล้วรู้สึกหิวบ่อย ก็อาจจะเลือกกินพวกถั่ว ธัญพืช หรือผลไม้ที่ไม่หวานมาก เช่น แก้วมังกร มันม่วง ฝรั่ง กล้วยน้ำว้า เป็นต้น
• เพราะ ช่วงเจ ถ้าเรากินแป้งเยอะ ก็จะได้น้ำตาลเยอะตามไปด้วย ยิ่งกินของหวานเข้าไประดับน้ำตาลในเลือดจะสูง

3. เลือกกินผักมากขึ้น

• การกินผักอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้
• ซึ่งใน 1 วันควรกินผักให้ได้อย่างน้อย 400 กรัม

4. เลือกกินถั่วและธัญพืช

• เพราะ เป็นอาหารธรรมชาติ และมีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่า หรือกินพวกเต้าหู้ก็จะดีกว่ากินเนื้อเทียม เพราะ จะได้คุณค่าทางอาหารและมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย
• ซึ่งในระยะยาวจะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

5. เลือกสั่งอาหาร ลดหวานมันเค็ม

• โดยบอกแม่ครัวให้ทำใหม่ เช่น ไม่ใส่ผงชูรส เค็มน้อย ให้ลดซีอิ๊วขาวลงหน่อย เคยใส่ 1 ช้อนก็ให้ใส่แค่ครึ่งช้อนพอ
• ถ้ารู้สึกจืด ค่อยเติมด้วยตัวเอง เพราะ เราจะรู้ว่ารสชาติแค่ไหนพอเหมาะ

เคล็ดลับ 4 เลี่ยง “กินเจ 2566” อิ่มอร่อย สบายใจ ห่างไกลโรค

1. เลี่ยงการปรุงเพิ่ม

• ใส่ซอสต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น ให้พอมีรสชาติ เอาปานกลาง
• ซีอิ๊วขาว มื้อหนึ่งไม่ควรเติมเกิน 1 ช้อนชา
• เกลือควรใส่แค่ 1 ส่วน 3 ช้อนชา
• พยายามใส่เครื่องปรุงให้น้อย บางคนใส่ซอสปรุงรส ใส่ซีอิ๊วขาว ใส่เกลือด้วย กลายเป็นได้รับโซเดียม 3 เท่า จึงควรจะใส่แค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

2. เลี่ยงเนื้อเทียมจากแป้ง

• ไม่ว่าจะเป็นกุ้งเทียม ปลาเทียม ปูเทียม เพราะ จะมีการใส่โซเดียมปรุงรสเค็ม ให้ใกล้เคียงกับของจริง
• ดังนั้น กินได้แต่นาน ๆ ครั้ง ไม่ควรกินบ่อย

3. เลี่ยงขนมขบเคี้ยว

• บางทีเวลาหิวแล้วไปซื้อมากิน ยิ่งทำให้ได้รับความเค็ม เพราะ ในขนมถุงเหล่านี้ จะมีโซเดียมผสมอยู่มาก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคไต

4. เลี่ยงของทอดและน้ำอัดลม

• ถ้าเป็นไปได้ควรงดไปเลย เพราะ ในน้ำอัดลมมีน้ำตาลเยอะมาก เวลาที่กินน้ำตาลมาก ๆ ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์จะขึ้น ส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น
  • ไขมันเกาะผนังหลอดเลือด
  • เลือดไม่พอเลี้ยงหัวใจและสมอง
  • รวมไปถึงไขมันเกาะตับ หรือที่เรียกว่าไขมันพอกตับ

ข้อมูล : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth