ศาลนราธิวาส อุทธรณ์ยืนจำคุก 6 ปี สาวนนท์โพสต์ หมิ่นใส่ร้ายสถาบันฯ

ศาลนราธิวาส อุทธรณ์ยืนจำคุก 6 ปี สาวนนท์โพสต์ หมิ่นใส่ร้ายสถาบันฯ

20 ต.ค.2566 ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความว่า

ศาลจังหวัดนราธิวาสอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ #พิพากษา ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 6 ปี ในคดี #ม112 #พรบคอม ของ “กัลยา” (นามสมมติ) พนักงานบริษัทจากจังหวัดนนทบุรีวัย 28 ปี จากกรณีโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก

ทำให้ในวันนี้ “กัลยา” ต้องถูกส่งตัวไปเรือนจำจังหวัดนราธิวาสเพื่อรอผลการประกันตัวในชั้นฎีกา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 ศาลจังหวัดนราธิวาสนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “กัลยา” (นามสมมติ) พนักงานบริษัทเอกชนจากจังหวัดนนทบุรี ผู้ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) จากโพสต์เฟซบุ๊ก 2 กระทง รวม 4 ข้อความ

ในคดีนี้จำเลยได้ต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว แต่บัญชีเฟซบุ๊กตามฟ้องมีผู้สามารถเข้าใช้ได้มากกว่าหนึ่งคน ทั้งพยานหลักฐานของโจทก์ก็เป็นเพียงการแคปหน้าจอข้อความมา ไม่ได้มี URL และวันเวลาของการโพสต์ จึงอาจมีการตัดต่อแก้ไขภาพได้โดยง่าย ทั้งข้อความแต่ละโพสต์เมื่อนำมาเรียงต่อกัน อาจตีความได้แบบหนึ่ง แต่เมื่ออ่านแยกจากกัน ก็อาจตีความได้หลากหลาย โดยแต่ละโพสต์ก็ไม่ได้ระบุชื่อถึงบุคคลใด

 

ศาลจังหวัดนราธิวาสอ่านคำพิพากษาเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 14 (3) ลงโทษกระทงละ 3 ปี สองกระทง รวมลงโทษจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา

เนื้อหาของคำพิพากษาโดยสรุปได้ว่า แม้ผลการตรวจสอบจะไม่ปรากฎว่าใครเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก แต่โจทก์มีนายพสิษฐ์ จันทร์หัวโทน มาเบิกความถึงเหตุการณ์ที่รู้เห็นมาเป็นลำดับขั้นตอน ประกอบกับคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวน ที่ให้การว่าจำเลยเปิดบัญชีเฟซบุ๊กโดยมีบุคคลอื่น คือแฟนของจำเลยเข้าไปใช้ได้ หากแต่เมื่อเดือน ธ.ค. 2563 ทั้งคู่ได้เลิกกันและได้มีการเปลี่ยนรหัสเฟซบุ๊ก ศาลจึงเห็นว่าจำเลยเป็นคนใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความตามฟ้องดังกล่าว

ดังนั้นเมื่อพิจารณาข้อความตามฟ้อง ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่มีการชุมนุมให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ย่อมทำให้เข้าใจได้ว่าข้อความทั้งหมดของจำเลยหมายถึงพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน ข้อความมีลักษณะเจตนามุ่งหมายให้คนอ่านข้อความเกลียดชังต่อพระมหากษัตริย์ แบ่งแยกเป็นฝักฝ่าย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ศาลจึงเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา

หลังศาลอ่านคำพิพากษา กัลยาถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปควบคุมไว้ที่ห้องขังของศาล ขณะเดียวกันทนายความได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์คดี

ต่อมาเวลา 11.15 น. โดยประมาณ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม นอกจากต้องวางหลักทรัพย์เพิ่มเติมอีก 50,000 บาท จากเดิมที่วางไว้ 150,000 บาท รวมเป็นวางหลักทรัพย์ในการประกันตัว 200,000 บาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น