ปฏิบัติการราชสีห์ บุกจับผับเถื่อน “MEM PUB” อึ้งยาเกลื่อน นักเที่ยวปัสสาวะม่วงนับร้อย

ปฏิบัติการราชสีห์ บุกจับผับเถื่อน "MEM PUB" อึ้งยาเกลื่อน นักเที่ยวปัสสาวะม่วงนับร้อย

เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 นำโดย ว่าที่ร้อยตรีอากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 พร้อมกำลังเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. บูรณาการเข้าจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมาย ไร้ใบอนุญาตสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานประกอบการ

จากการเข้าตรวจค้น “MEM Exculsive Club” หรือ MEM PUB ถนนหทัยราษฎร์ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบภายในผับพบเป็นห้องทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่น แสงไฟเลเซอร์วิบวับ พบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน กำลังมั่วสุมดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามัน ทั้งยังสูบบุหรี่พ่นควันคละคลุ้ง พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลง และเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับได้เกิดความโกลาหล นักเที่ยวหลายคนต่างโยนยาเสพติดทิ้งออกจากตัว และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านและหลังร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

 

เบื้องต้นพบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน 5 คน และจากการตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น มีลักษณะเป็นผงสีขาว ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นยาเคตามีน จากนั้นได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นตรวจสอบจำนวน 291 คน พบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วงจำนวนมากถึง 137 คน พนักงานฝ่ายปกครองจึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด (1) ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. โดยเปิดสถานบริการภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งปิด 5 ปี (2) เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต (3) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ (4) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย (5) ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ซึ่งในส่วน ของนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วง เจ้าหน้าที่ ปปส.ได้นำเข้ากระบวนการตามกฎหมายต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในย่านหทัยราษฎร์-สายไหม ในพื้นที่อำเภอลำลูกกาครั้งนี้ สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยว่ามีสถานบริการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ มีการใช้ยาเสพติด และมีการจำหน่ายยาเสพติดภายในร้าน การ์ดของร้านมีพฤติการณ์พกอาวุธปืน อ้างอิทธิพลคนในพื้นที่ ทั้งปล่อยนักเที่ยวบางคนพกพาอาวุธปืน และเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ให้บริการถึง 6 โมงเช้า ทั้งยังเคยมีประวัติเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปเที่ยวเมาและขับรถตกทางด่วนเสียชีวิต และมีข่าวยิงกันตายในร้าน แต่ร้านยังคงได้เปิดตามปกติ อยากให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบจับกุม

โดยในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง MEM Exculsive Club มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลยให้มีการขาย และเสพยาเสพติดภายในร้าน ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง จากนี้จะได้สั่งการให้อำเภอลำลูกการายงานเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป

อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวด้วยว่า การจับกุมในวันนี้เป็นไปตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม การแก้ไขปัญหายาเสพติด และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างสังคมให้สงบสุขปลอดยาเสพติด ซึ่งการจับกุมในวันนี้นอกจากเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามข้อร้องเรียนของประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรม และยังเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติด ป้องกันไม่ให้สถานบริการเป็นสถานที่กระจายยาเสพติดไปสู่นักเที่ยวด้วยอีกทางหนึ่งด้วย

 

 

ด้านนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กล่าวว่า มีประชาชนได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมการทรวงมหาดไทย ว่ามีผับเปิด และไม่มีใบอนุญาตและปล่อยให้มีการใช้ยาเสพติดในผับเยอะมาก ซึ่งเมื่อเรามาตรวจสอบก็พบว่ามียาเสพติดจริงอย่างที่ได้รับร้องเรียนมา และสถานที่แห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตในการตั้งสถานที่ หรือเป็นสถานบันเทิงเถื่อน

นอกจากนี้ยังมีการเปิดให้บริการดึกมากขายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และการปล่อยปละละเลยให้มีการเสพยาเสพติด ซึ่งทางสายของเราเมื่อเข้ามาเห็นว่าแรกๆ ก็จะเสพกันในห้องน้ำ และเมื่อดึกก็จะเสพกันที่โต๊ะเลย ซึ่งทาง ป.ป.ส.แจ้งว่า “แฮปปี้วอเทอร์” นั้น เป็นยาเสพติดที่อันตรายมาก เพราะมีตัวยาเสพติดหลายชนิดผสมอยู่ ทั้งกระตุ้นประสาท ซึ่งสถานที่ที่เพิ่งย้ายมาจากที่มีเรื่องยิงกันเสียชีวิต จึงย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ และยังพบอาวุธปืนพร้อมใช้แบลงค์กันดัดแปลง และเครื่องกระสุนในตัวของการ์ดด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น