นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล เดินทางเยี่ยมกองทหารที่ประจำการใกล้ชายแดนเลบานอน และกล่าวว่า ตอนนี้เรามีอยู่ 2 การต่อสู้ การต่อสู้แรกคือ การทำให้ฮิซบอลเลาะห์ถอยออกไปจากที่นี่ และการต่อสู้อีกอย่างหนึ่งคือ ชัยชนะที่เด็ดขาด จากการบดขยี้กลุ่มฮามาส ถ้าฮิซบอลเลาะห์ตัดสินใจเข้าสู่สงคราม มันจะเป็นการปล่อยให้เกิดสงครามเลบานอนครั้งที่ 2 จะเป็นการทำผิดพลาดในชีวิต เพราะเราจะโจมตีด้วยความแข็งแกร่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ และประเทศเลบานอนจะต้องถูกทำลายล้าง
ทั้งนี้ เนทันยาฮูได้อ้างอิงไปถึงเมื่อครั้งความขัดแย้งในปี 2006 ซึ่งอิสราเอลบุกโจมตีเลบานอนตอนใต้ โดยเป็นการโจมตีทางอากาศเพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในอิสราเอล ชาวอิสราเอลประมาณ 165 คนและชาวเลบานอนมากกว่า 1 พันคนถูกสังหาร ความขัดแย้งในครั้งนั้น ยืดเยื้อนาน 1 เดือน และในตอนนี้ กองกำลังอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ต่างมีการยิงจรวดและปืนใหญ่แลกเปลี่ยนกันไปมาอยู่ นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับกลุ่มฮามาสปะทุขึ้น เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่มีการบุกครั้งใหญ่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี การที่ฮิซบอลเลาะห์เข้าร่วมการโจมตีอิสราเอลครั้งนี้ด้วยนั้น ได้ก่อให้เกิดความกังวลแก่สหรัฐ สื่อหลายสำนักได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า สหรัฐพยายามกดดันไม่ให้อิสราเอลเปิดสงครามกับฮิซบอลเลาะห์ และล่าสุด นิวยอร์กไทมส์ สื่อดังของสหรัฐก็รายงาน โดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐและอิสราเอลว่า สหรัฐกังวลว่า หากอิสราเอลเปิดการโจมตีครั้งใหญ่ ที่ไม่เพียงแต่ต่อกลุ่มฮามาสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ด้วย อิสราเอลก็จะต้องเผชิญกับการต่อสู้ใน แนวหน้าถึง 2 สงคราม ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจดึงสหรัฐเข้าสู่ความขัดแย้งเช่นเดียวกับอิหร่าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่มีฐานอยู่ในเลบานอน
รายงานระบุต่อว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐพยายามติดต่อกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิหร่าน โดยใช้ประเทศอาหรับเป็นสื่อกลาง ขณะเดียวกัน ก็พยายามแนะนำอิสราเอลว่า ให้ระมัดระวังการกระทำของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีทางตอนเหนือต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และทางตอนใต้ในฉนวนกาซา โดยให้เฝ้าดูว่า การโจมตีเหล่านี้ จะไม่ทำให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ใช้เป็นข้ออ้างง่ายๆ เพื่อเข้าสู่สงครามได้