Top News ค้นหาความจริง หลังโซเชียลแฉหนัก “สส.ก้าวไกล” ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา รวม 30 ราย

Top News ค้นหาความจริง หลังโซเชียลแฉหนัก "สส.ก้าวไกล" ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา รวม 30 ราย

จากกรณีเพจ Facebook ชื่อดังเปิดเผยรายชื่อ ส.สพรรคก้าวไกล ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา รวม 30 ราย กว่า 80 คดี ทั้งคดีฉ้อโกง 112 / เมาแล้วขับ / ปลอมเอกสารราชการ นั้น ล่าสุด Top News ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า สส.พรรคก้าวไกล เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาจริงหรือไม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย ทีมข่าว Top News เดินทางมาที่สน.ประชาชื่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังพบข้อมูลว่ามี ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกลรายหนึ่ง ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา คือ ฉ้อโกง ซึ่ง สน.ประชาชื่น เป็นเจ้าของสำนวนคดี จากข้อมูลของเพจเฟซบุ๊ก “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ระบุว่า สส.รายดังกล่าว อักษรย่อ คือ “ป” เป็นสส.กรุงเทพมหานคร

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ระบุว่า ขณะนี้ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ซึ่งขอเวลาไปตรวจสอบข้อมูลก่อน แต่หาก สส.รายนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงจริง ก็ต้องดูว่าเป็นข้อหาฉ้อโกงธรรมดา หรือ ฉ้อโกงประชาชน ถ้าเป็นฉ้อโกงประชาชน ก็ไม่สามารถยอมความได้ เป็นคดีอาญาแผ่นดิน

ส่วนอีกราย เป็น สส.พรรคก้าวไกล พื้นที่กรุงเทพมหานครเช่นกัน อักษรย่อ “ช” สส.ก้าวไกล เขตจตุจักร หลักสี่ ตกเป็นผู้ต้องหาความผิดตาม พรบ.รับราชการทหาร ท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง เป็นผู้รับผิดชอบทำสำนวนคดี ในคดีที่เกี่ยวกับราชการทหาร

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีที่ สส. หรือ สมาชิกพรรคการเมือง กระทำความผิดอาญา ถ้าเกิดขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่งก็เข้าข่ายความผิดจริยธรรม สามารถเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ แต่หากกระทำความผิดก่อนเป็น สส. เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมือง หรือ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หากมีการร้องเรียนจะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นๆ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากนั้นจะต้องส่งเรื่องมาให้ กกต. ภายในระยะเวลาทีกำหนด หากไม่ส่งเรื่องมาถือว่า คณะกรรมการพรรคจะมีความผิด คณะกรรมการพรรคอาจถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งทั้งชุดทันที

นอกจากนี้ ยังมี สส.พรรคก้าวไกล อีกหลายคน ตกเป็นผู้ต้องหาอีกหลายคดี เช่น เช็คเด้ง ปลอมเอกสารราชการ แม้กระทั่งเป็นเจ้ามือหวย ก็ยังมี รวมถึงคดีทำร้ายร่างกาย ทั้งหมดถูกกล่าวหาก่อนที่จะได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงมีเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และสามารถต่อสู้ทางคดีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น