CNN สื่อดังของสหรัฐ รายงานโดยอ้างถึงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของอิสราเอลว่า การหยุดยิงไม่ได้รับการพิจารณา แม้แต่ในระหว่างการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกันมากกว่า 200 คน เนื่องจากความพยายามด้านมนุษยธรรม ไม่ควรส่งผลกระทบต่อภารกิจการโค่นล้มกลุ่มฮามาส และสหรัฐก็ไม่ได้พยายามชะลอการรุกล้ำฉนวนกาซาของอิสราเอลด้วย โดยเรามีการเจรจาอย่างใกล้ชิดและปรึกษาหารือกับฝ่ายบริหารของสหรัฐ ซึ่งสหรัฐก็ไม่ได้กดดันอิสราเอลเกี่ยวกับปฏิบัติการภาคพื้นดินเลย
ขณะเดียวกัน โจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (หรือ IDF) ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ ABC ของออสเตรเลียว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลในฉนวนกาซา แทบจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากกลุ่มติดอาวุธฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมด และวางอาวุธของพวกเขาลง เป้าหมายที่มีคือ แยกกลุ่มฮามาสออกจากขีดความสามารถทางการทหารโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ อิสราเอลต้องมีการพึ่งพาการโจมตีทางอากาศ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กองกำลังของตน ตกอยู่ในอันตรายโดยไม่จำเป็น อย่างไรก็ดี แนวทางดังกล่าวอาจไม่เพียงพอแล้ว ที่จะขจัดกลุ่มติดอาวุธออกไปได้
คอนริคัสกล่าวต่อว่า หากกลุ่มฮามาสออกมาจากที่ซ่อนเบื้องหลังพลเรือน และส่งคืนตัวประกันทั้งหมด 212 คน รวมถึงยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข สงครามก็จะสิ้นสุดลง แต่หากกลุ่มติดอาวุธไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้ อิสราเอลก็คงจะต้องเข้าไปดำเนินการให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลได้ประกาศแล้วว่า นี่จะต้องเป็นการสู้รบภาคพื้นดินในฉนวนกาซาครั้งสุดท้าย ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า หลังจากนี้ไป จะไม่มีกลุ่มฮามาสอีกแล้ว
นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอย่างไม่คาดฝันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม อิสราเอลได้เรียกทหารกองหนุนประมาณ 360,000 นาย และระดมกำลังจำนวนมากทั่วฉนวนกาซา กองทัพอากาศทำการโจมตีครั้งใหญ่ แต่ก็ยังไม่มีการออกคำสั่งสุดท้ายให้เข้าไปในฉนวนกาซาแต่อย่างใด