“อดีตบิ๊กทร.” แจงปัญหาเครื่องยนต์ สาเหตุขอจีนแลกเรือฟริเกตคืนเรือดำน้ำ ย้ำอนาคตจำเป็นต้องซื้อใหม่

“พล.ร.อ.จุมพล” เผยสาเหตุซื้อเรือฟริเกตแทนเรือดำน้ำ ไม่มั่นใจเครื่องยนต์จีน เปรียบใช้รถเบนซ์แต่ใส่เครื่องนิสสัน-อีซุซุ แต่ชี้กระบวนการซื้อฟริเกตไม่ง่าย ต้องพิจารณารอบคอบ ป้องกันฟ้องร้อง

24 ต.ค.2566 พลเรือเอกจุมพล ลุมพิกานนท์ อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชากองทัพเรือ ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ ถึงปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า ทีโออาร์ของโครงการนี้ระบุชัดเจนว่าเรือต้องเป็นเครื่องอย่างไร มีระบบอย่างไร เรือดำน้ำจีนก็ใช้เครื่องยนต์ของเยอรมนี แล้วก็บอกว่าเอาแบบจีน แต่มีระบบต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ไม่ใช่ว่าเราต้องการเครื่องยนต์เยอรมนี แล้วจีนจัดหาให้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามวันดีคืนดีสหรัฐฯและประเทศสหภาพยุโรปได้กีดกันทางการค้ากับจีน ทำให้เยอรมนีไม่ขายเครื่องยนต์ให้จีน จีนจึงแจ้งกับกองทัพเรือของไทยว่าไม่มีเครื่องยนต์รุ่นดังกล่าว

 

 

 

 

 

โดยเสนออีกรุ่นแทน เมื่อกองทัพเรือของไทยได้ไปทดสอบ พบว่ามันยังไม่เคยมีใครใช้ สมมติเราใช้รถเบนซ์แต่เปลี่ยนเครื่องเป็นนิสสันหรือเครื่องอีซุซุมาใส่แทน ขับเคลื่อนได้เหมือนกัน แต่เราไม่มั่นใจ แม้ผบ.ทร.คนที่ผ่านมาโอเคในหลักการ เพราะเขาส่งทีมไปดูแล้ว แต่รัฐบาลมองว่ามันเสี่ยง กระแสสังคม และผู้รู้นักวิชาการก็ติงมาหลายเรื่อง รวมถึงมีปัญหาเรื่องข้อตกลงด้วย ดังนั้นขณะนี้กองทัพเรือก็เสนอถ้าจะไปเจรจา ให้นายกรัฐมนตรีไปเจรจากับฝ่ายจีนว่าจะขอเป็นเรือประเภทอื่นที่กองทัพเรือมีความจำเป็นได้หรือไม่ ซึ่งก็สอดคล้องกับความต้องการของกองทัพเรือที่ต้องการเรือฟริเกตลำที่ 2 และที่ 3 ที่เคยมีแผนจะซื้อ

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

 

พลเรือเอกจุมพล กล่าวอีกว่า กระบวนการทั้งหมดไม่ง่าย ข้อห่วงใยทั้งหมดอันดับแรกคือ รัฐบาลต้องไปเจรจาโดยมอบให้กระทรวงกลาโหมไปคุยกับฝ่ายจีนว่าข้อตกลงที่มีอยู่เดิมจะทำอย่างไรให้เกิดทางออกร่วมกัน เช่น เรือฟริเกต หรืออื่นๆ หรือคุยรายละเอียดเรื่องเงิน 7 พันล้านที่ไทยจ่ายไปแล้ว หรือให้ผู้ซื้อกับผู้ขายทำตามข้อตกลงที่มีอยู่ โดยไม่ให้มีการฟ้องร้อง ส่วนเงินที่เราจ่ายไปแล้ว 7 พันล้าน หากเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกตจะต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกหรือไม่นั้น เรื่องนี้ยังเป็นแค่แนวคิด ต้องดูรายละเอียดในข้อตกลงที่มีอยู่ว่าทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นนายกรัฐมนตรีของไทยได้ไปคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมของจีนแล้ว และรัฐมนตรีกลาโหมของจีนก็ไปเรียนกับประธานาธิบดีจีนแล้วว่าแนวคิดคือเรือฟริเกต

 

 

ขั้นตอนจากนี้จีนจะพิจารณาว่าจะให้บริษัทใดที่อยู่ในอาณัติของรัฐบาลมาเป็นคู่สัญญากับเรา หากผ่านขั้นตอนนี้ฝ่ายไทยก็ต้องให้กฤษฏีกาและอัยการสูงสุดรวมถึงมือกฏหมายของรัฐบาล มาตรวจสัญญาว่าทำได้หรือไม่ ต้องดูให้ละเอียด แล้วนำเข้าครม. หลังจากนั้นจึงค่อยมาดูว่าเรือฟลิเกตที่อยากจะได้ จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร จะราคา 1.7 หมื่นล้านบาท หรือ 1.4 หมื่นล้านบาท ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของเรือฟริเกตที่จะจัดหา หรือจีนอาจจะให้เรือฟลิเกตมาลองใช้ก่อนก็เป็นไปได้ ทั้งนี้เราต้องการเรือฟริเกตถึง 8 ลำ ตอนนี้เรามีอยู่ 5 ลำ

 

 

 

ตนในฐานะที่เป็นทหารเรือ กองทัพเรือเป็นเพียงผู้ใช้ ถ้าไม่ได้เรือชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรือดำน้ำ หรือ เรือฟริเกตก็ตาม แต่กองทัพเรือรับผิดชอบการป้องกันประเทศ ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ถ้าไม่ได้ก็เหมือนคุณหมอไม่มีเครื่องมือ ก็ต้องยอมรับความเสี่ยง ส่วนฝ่ายบริหารกองทัพเรือจะต้องปรับแผนซื้อเรือดำน้ำจากประเทศอื่นหรือไม่นั้น คิดอยู่ตลอดเวลา เพราะกองทัพเรือต้องวิเคราะห์ว่าภัยคุกคามคืออะไร ถ้าเขาไม่ได้เครื่องมืออุปกรณ์อย่างที่เขาวางแผนไว้จากภัยคุกคามที่เขาได้วิเคราะห์สถานการณ์ตลอด เขาก็ต้องมีความเสี่ยง เพราะเขาเป็นผู้ปฏิบัติ ซึ่งหมายถึงประเทศเสี่ยงด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น