นายกฯมาเลเซีย ร่วมชุมนุมใหญ่กับประชาชนในเมืองหลวง ประณามความรุนแรงในฉนวนกาซาและสนับสนุนชาวปาเลสไตน์
มาลาเซียซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้จัดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อวานนี้ นับตั้งแต่ได้มีการจัดชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมกับประชาชนกว่า 1 หมื่น 6 พันคน ที่สนามกีฬาในร่มในกรุงกัวลาลัมเปอร์
โดยจุดยืนของมาเลเซียนั้น ให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์มาแล้วอย่างยาวนาน และได้เรียกร้องให้มีการตั้งรัฐ 2 รัฐ เพื่อขจัดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ รวมถึงมาเลเซียไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล
นายอันวาร์บอกกับฝูงชนว่า สถานการณ์นี้ได้เข้าสู่จุดสูงสุดของความป่าเถื่อนในโลกนี้ และเป็นความวิกลจริต ที่ยอมให้คนถูกแล่เนื้อ ทารกถูกฆ่า โรงพยาบาลถูกระเบิด และโรงเรียนถูกทำลาย และว่า เราพร้อมเคียงข้างชาวปาเลสไตน์ทั้งเมื่อวาน วันนี้ และพรุ่งนี้ อีกทั้งตำหนิว่า อิสราเอลกำลังได้รับการเข้าข้างสนับสนุนจากสหรัฐ และยุโรป
อีกทั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายอันวาร์กล่าวปฏิเสธแรงกดดันจากตะวันตก ที่ต้องการให้ประณามกลุ่มฮามาส พร้อมเปิดเผยว่า เขาได้พูดคุยกับนายอิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสเมื่อต้นเดือนนี้ และเรียกร้องให้ยุติการทิ้งระเบิดในฉนวนกาซาทันที และจัดตั้งทางเดินเพื่อมนุษยธรรม
สำหรับบรรยากาศการชุมนุม ผู้ประท้วงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ถือธงและป้ายผ้าสนับสนุนแบนเนอร์ปาเลสไตน์ ตะโกนว่า “ปาเลสไตน์จงเจริญ” และ “ล้มอิสราเอล”ซึ่งนางสาว นูรุล อานิส ชาฟิกาห์ มูฮัมหมัด นักศึกษาวัย 20 ปี หนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับศาสนาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับมนุษยธรรม ในฐานะมนุษย์ เราต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน