เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย ภายหลังที่การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย มีมติเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค รวม 23 คน ประกอบด้วย นส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 ด้วยคะแนน 289 คะแนน จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด 290 คะแนน และมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนอีก 1 คน นอกจากนี้ ยังมีรองหัวหน้าพรรคอีก 6 คนคือ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย นส.จิราพร สินธุไพร นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล สำหรับตำแหน่ง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย คือ นายสรวงศ์ เทียนทอง ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค 3 คน ประกอบด้วย นส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ นส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส่วน นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายณณัฏฐ์ หงส์ชูเวช เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค และ นายดนุพร ปุณณกันต์ เป็นโฆษกพรรค สำหรับกรรมการบริหารพรรคอีก 9 คน ประกอบด้วย นส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ นายวรวงศ์ วรปัญญา นายพชร จันทรรวงทอง นายนิกร โสมกลาง นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล นายจเด็ศ จันทรา นายพลนชชา จักรเพ็ชร นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ นส.สรัสนันท์ อรรณนพพร จากนั้น นส.แพทองธาร ได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หลังขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งมีล่ามภาษามือคอยแปลภาษาอยู่ข้าง ระบุว่า ขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน ที่มอบความไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เป็นเพียงกระบวนการของพรรค แต่เป็นการเชื่อมความเชื่อมั่น ความมั่นคง ความศรัทธา เชื่อมการต่อสู้ของทุกคนเข้าด้วยกันอีกครั้ง “พรรคเพื่อไทยผ่านอะไรมาเยอะมาก เราเป็นพรรคการเมืองที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเรายังเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกระทำมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดิฉันเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้สังเกต ได้ใกล้ชิด ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ต้องขอขอบท่านทักษิณ ชินวัตร คุณพ่อ ที่ทำให้ดิฉันได้เห็นถึงความตั้งใจ เห็นถึงอุดมการณ์ ของท่าน และทำให้ได้เรียนรู้ ได้ใกล้ชิด ที่ได้เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของดิฉันในการดำรงชีวิต”
นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า ตนรู้ดีว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญมาก โดยเฉพาะบริบทของการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วในทุกวัน มั่นใจว่าเรามีบุคลากรที่มีความสามารถ สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่เป็นไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน เราจะทำเพื่อไทยให้พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง “การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทีมคณะบริหารพรรคเพื่อไทยทีมใหม่จะต้องถอดบทเรียน ทบทวนการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพื่อทำให้ดีขึ้นเพื่อนำพรรคเพื่อไทยให้กลับไปยืนอยู่ในใจของประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอีกครั้งอย่างยั่งยืน” นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ภายใต้รัฐบาลและการนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลในวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ การให้ภาคเอกชนและคนรู้จริงเข้าไปพัฒนาเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก การนำร่องใช้บัตรประชาชนเพื่อรักษาพยาบาลในโครงการ 30 บาทรักษาได้ทุกที่ การรับมือวิกฤติทันท่วงทีช่วยคนไทยกลับบ้านในสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง การเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตกับนานาประเทศ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสองเดือน สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศอย่างมากมาย และตนมั่นใจว่า 4 ปี หลังจากนี้ก็จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นให้ประเทศของเราอย่างแน่นอน ณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งด้านความเป็นอยู่ สิทธิเสรีภาพอย่างที่ทำต่อเนื่องมา 25 ปี เรามีวันนี้ได้เพราะผู้ใหญ่ในพรรค รดน้ำพรวนดินให้ต้นไม้ต้นนี้แข็งแรงและมีรากฐานที่มั่นคง ตนมองเห็นได้ชัด ได้ไกลขึ้นเพราะทุกท่านได้ร่วมสร้างกันไว้ จากนี้ไปตนอยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นมากกว่าพรรคที่ให้โอกาส แต่สามารถขจัดความเสี่ยงในชีวิตของประชาชนได้ด้วย เพื่อปลดล็อคศักยภาพของคนได้อย่างเต็มที่ มีสิทธิ์ มีเสียงในการพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งดีเอ็นเอเดิมของพรรคเพื่อไทย นั่นคือการทำนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงได้ เราจะทำความฝันให้เป็นความจริง เราจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคำสบประมาทด้วยผลงานที่ปฎิเสธไม่ได้ ดีเอ็นเอนี้จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย และพัฒนาตามยุคสมัย