เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เผยภาพ "กระทิง" อวดโฉมหน้ากล้องดักถ่ายสัตว์ป่า หลังไม่พบมานานกว่า 37 ปี
ข่าวที่น่าสนใจ
นายอาคม บุญโนนเเต้ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน เผยว่า ตามที่เขตฯ ได้มีการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) เพื่อสำรวจการกระจายของสัตว์ป่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่องร่วมกับการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART PATROL) เนื่องจาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในเชิงระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของป่ารอยต่อระหว่างประเทศไทยและสหภาพเมียนมา
โดยเลือกพื้นที่ที่พบร่องรอยสัตว์ป่าชุกชุม หรือมีรายงานว่า เคยพบเห็นสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ในบริเวณนั้น โดยเมื่อช่วงเวลาเช้าตรู่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทางเขตฯ ได้เปิดกล้องดักภาพถ่ายสัตว์ป่า พบ “กระทิง” (Bos gaurus) ซึ่งเป็นสัตว์ที่นับว่าพบตัวยากในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย
สำหรับกระ ทิง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินได้พบเห็นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2529 และในปี พ.ศ. 2531 มีผู้ลักลอบล่าวัวป่าชนิดนี้จากบริเวณแม่ลาหลวงใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ยวมฝั่งขวา ซึ่งเป็นผืนป่าต่อเนื่องกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน (ไพฑูรย์ ตนพะยอม 2533, การติดต่อส่วนตัว)
ข้อมูลเกี่ยวกับการพบเห็นตัวกระทิงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินที่มีปรากฎในเอกสาร รายงานฉบับร่างแผนแม่บทเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2533
นับเป็นเวลากว่า 37 ปี แล้วที่ไม่มีรายงานการพบเห็นตัวกร ะทิงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินเลย หากแต่มีเพียงข้อมูลคำบอกเล่า รอยตีน หรือ กองมูล ที่ไม่อาจยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นกระ ทิงหรือไม่ แตกต่างกับวัวแดงที่มีพบเห็นตัวโดยตรงบ่อยครั้ง และมีแหล่งอาศัยชัดเจนคือบริเวณป่าเต็งรังที่ราบตอนบนของเขตฯ เท่านั้น
กร ะทิง ชื่อสามัญคือ Gaur มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bos gaurus พบในวันที่ 8 ตุลาคม 2566 เวลา 03.01 น. ตัวผู้ ตัวเต็มวัย จำนวน 1 ตัว กระ ทิงเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่จัดอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ( Endangered : EN) ตามการจัดสถานภาพสัตว์ป่าของ IUCN (สผ.) และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
จากการรายงานของเจ้าหน้าที่บริเวณที่ถ่ายภาพได้ และชาวบ้านในพื้นที่ พบว่ามีร่องรอยกระ ทิงมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ประจำทุกปี โดยมาในลักษณะฝูงเล็ก ๆ ( 1 – 3 ตัว) หรือมาในลักษณะกระ ทิงโทน (ตัวผู้ตัวเดียว) และมีพฤติกรรมหากินข้ามไปมาบริเวณป่ารอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ยวมฝั่งขวา และประเทศเมียนมา
หากแต่เป็นเพียงข้อมูลคำบอกเล่า รอยตีน และกองมูล ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกระ ทิงหรือเป็นร่องรอยปศุสัตว์ของชาวบ้าน ภาพจากกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) ในครั้งนี้จึงเป็นหลักฐานที่สำคัญในการยืนยันการมีอยู่และการกระจายของกระ ทิงในพื้นที่ ดังนั้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินจึงถือเป็นป่าอนุรักษ์เพียงแห่งเดียวในภาคเหนือของประเทศไทยที่มีรายงานพบเห็นตัวกระ ทิงในปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง