สุรินทร์- ชาวไทยใจบุญ..นับพันคน..ทะลักตลาดช่องจอมที่ถูกไฟไหม้ หลังสื่อนำเสนอข่าวหดหู่และสงสารจับใจ เมื่อพบชาวกัมพูชาเอาสินค้าถูกเพลิงไหม้มาขาย เพื่อหาเงินซื้อข้าวกิน ขณะที่พระสงฆ์และประชาชน แห่บริจาคข้าวสารอาหารแห้งตลอดทั้งวัน พ่อค้าไทย ยันเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ล้านขึ้นไป ไม่ใช่ 32 ล้านอย่างที่สื่อบางสำนักนำเสนอ

วันที่ 30 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า หลังจากสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว ถึงกรณีพบภาพที่น่าสลดหดหู่ใจและน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งภาพดังกล่าวสามารถสร้างความรู้สึกสะเทือนใจ ให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้พบเห็นพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ที่ร้านค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกเพลิงไหม้เสียหาย ต่างได้พากันนำสินค้าที่ถูกเพลิงไหม้และสินค้าที่นำออกมาทันบางส่วน ไม่ว่าจะเป็น ถ้วยชาม หม้อ ไห กะละมัง ทัพพี ตะหลิว ช้อน มีด จอบเสียม เคียว ขวาน รวมทั้งเครื่องอุปกรณ์เครื่องมือช่าง และสินค้าต่างๆเท่าที่เหลืออยู่และยังใช้ได้ มาวางขายกับพื้น บางชิ้นมีร่องรอยถูกไฟไหม้ไฟลน แต่ยังพอใช้ได้ ก็นำมาวางขายกับพื้นข้างร้านของตนเองที่ถูกเพลิงไหม้เหลือแต่ตอตะโก เลหลังในราคาถูก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (30 ต.ค.66) หลังจากประชาชนไปตักบาตรเทโวโรหนะ หลังวันออกพรรษากันแล้ว ต่างถือโอกาสพาครอบครัว ญาติพี่น้อง เดินทางมาจากทั่วสารทิศ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด เพื่อมาช่วยซื้อสินค้าที่ถูกเพลิงไหม้และสินค้าที่เหลืออยู่ของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา ตลอดทั้งวันนับพันคน หลังจากได้เห็นภาพข่าวทั้งจากทางสื่อทีวี และสื่อโซเชี่ยลต่างๆ ว่าร้านค้าจำนวน 320 ร้านไหม้เสียหาย หลังจากเมื่อวานนี้ มีพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาเอาสินที่ถูกไฟไหม้มาขายเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น ทำให้ด้านหลังตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ถัดไปจากตลาดที่ถูกเพลิงไหม้ มีความคับคั่งและคึกคักของประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ที่พากันมาช่วยซื้อสินค้า และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสงสารพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจับใจ เลยพากันมาช่วยซื้อสินค้าในครั้งนี้ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ก็พากันมาตั้งร้านขายของจำนวนมากเช่นกัน บางร้านวางปูกับพื้นดิน ด้วยสินค้าเท่าที่เหลืออยู่

นายเพ็ง พ่อค้าชาวกัมพูชา บอกว่า ร้านของตนเองถูกเพลิงไหม้หมดทั้งร้าน ลงทุนนับล้าน เหลือสินค้าอยู่เท่าที่เห็น เอามาขายหาเงินไปไว้ซื้อกับข้าว หมดตัวแล้วไม่เหลืออะไรเลย

นางเพียบ ปุราคา อายุ 63 ปี ชาว บ.ยาง ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนมาช่วยซื้อหลายอย่าง สงสารชาวกัมพูชาที่มาค้าขาย ชิ้นละ 40-50 บาท ไม่แพง ดูข่าวทางทีวี ก็เลยสงสารและเห็นใจมาก

นางสายทอง สิงห์ทอง อายุ 72 ปี ชาว ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ตนซื้อไปใช้ เห็นข่าวเลยมาซื้อ สงสาร เห็นอกเห็นใจทีเขาทีเรา ลงทุนไม่รู้เท่าไหร่ สงสารเลยมาซื้อ

ขณะที่ประชาชนผู้ใจบุญต่างหลั่งไหลนำสิ่งของ ข้าวสารอาหารแห้งเข้ามาบริจาค ที่ศูนย์รับบริจาคกองอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยตลาดช่องจอมโดย อ.กาบเชิง และ อบต.ด่าน บริเวณด้านในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อย่างคึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะ ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ก็ได้นำข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้จำนวน 1 รถกระบะ เพื่อช่วยเหลือและเยียวยา ในฐานนะบ้านพี่เมืองน้อง และให้กำลังใจผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ามาบริจาคข้าวสารอาหารแห้งได้ทุกวัน หรือสามารถประสานกับ อ.กาบเชิง ได้ที่หมายเลย 063-901-3124

ทั้งนี้ พ่อค้าชาวไทยในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่า ตามที่สื่อบางสำนักนำเสนอข่าวไปว่ามูลค่าความเสียหาย 32 ล้านนั้น ตนว่าไม่เป็นความจริง จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ซึ่งตนก็รู้จักหลายคน บอกว่าลงทุนแต่ละร้าน บางคนร้านละ 2-3 ล้าน โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้ายีนส์ 5-8 ล้านขึ้น หากรวมโครงสร้างร้านก็มากกว่านั้น เฉพาะร้านสกรีนส์เสื้อของคนไทยก็ 2 ล้านเข้าไปแล้ว นี่เสียหาย 320 ร้าน ตีขั้นต่ำสุดเล่นๆสมมุติร้านละ 5 แสน ก็ประมาณ 160 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ตนเชื่อว่ามากกว่า 300 ล้านบาทแน่นอน สาเหตุที่มีสินค้ามากเพราะช่วงนี้เป็นช่วงกักตุนสิ้นค้าไว้ขายช่วงหน้าหนาวและปีใหม่ที่จะถึงนี้.

ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์

เพลิงไหม้, จ.สุรินทร์, ตลาดช่องจอม, คนไทยใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง