แม้สถานการณ์ตลาดรถยนต์รวมในไทยที่เผชิญหลายปัญหา ล่าสุด กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ต้องปรับลดเป้าการผลิตรถยนต์ปี 66 ลงจาก 1.9 ล้านคัน เหลือ 1.85 ล้านคัน โดยเฉพาะความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของสถาบันการเงิน จากหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูง แต่ปรากฏว่ายอดขายรถยนต์ BEV ปี 2566 และ 2567 กลับมีแนวโน้มเติบโตขึ้น
ล่าสุด ทีมข่าว TOPNEWS ได้ลงพื้นที่ บริษัท อัลลายแอนซ์ ออโต้ ออคชั่น จำกัด หรือ AAA ซึ่งทำธุรกิจขายทอดตลาดรถยนต์มากว่า 18 ปี เพื่อติดตามการประมูลรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ครั้งแรกที่ล็อตใหญ่ที่สุดในไทย จำนวน 49 คัน เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา
นายประสงค์ ตั้งสีฟ้า กรรมการผู้จัดการ AAA เปิดเผยว่า การเปิดประมูลรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ครั้งนี้ เป็นรถครบสัญญาเช่า จากผู้ขายรายใหญ่ที่มีรถให้เช่าจำนวนมาก (ไม่ใช่รถยึด) อายุรถโดยเฉลี่ยประมาณ 2 ปี จำนวน 5 ยี่ห้อ 6 โมเดล อย่าง โตโยต้า , GWM , ฮุนได , นิสสัน และ MG เป็นรถที่มีเลขไมค์ 4,000-40,000 กิโลเมตรเป็นส่วนใหญ่ มีการรับประกันตัวรถ ประมาณ 3-5 ปี และประกันแบตเตอรี่ 5-8 ปี ตามเงื่อนไขของผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ ผ่านศูนย์บริการ ขณะที่สุขภาพแบตเตอรี่สูงกว่า 80% โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 62-65% ของราคาป้ายแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประมูลรถยนต์ไฟฟ้ามือสองครั้งนี้ จะถือเป็นกำหนดราคามาตรฐานเริ่มต้นของรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ของประเทศไทยได้หรือไม่ นายประสงค์ ระบุว่า ยังไม่ใช่ราคามาตรฐาน เนื่องจากรถที่นำมาประมูล ยังไม่ใช่ตัวแทนจากทุกยี่ห้อในตลาด ซึ่งสุดท้ายต้องดูว่า แบรนด์เหล่านี้จะเป็นที่ต้องการ หรือเป็นที่นิยมของผู้บริโภคหรือไม่ เพราะในตลาดปัจจุบัน มี BYD , Neta และ Tesla ด้วย
ขณะที่ สถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ของไทย นายประสงค์ ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้า เริ่มขายในไทยประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ปี 63 พบว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนชนิดไฟฟ้า ยอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างก้าวกระโดด โดย 9 เดือนแรกปีนี้ ยอดจดทะเบียนรถอยู่ที่กว่า 5 หมื่นคัน และไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 6,000 คันต่อเดือน ทำให้เชื่อว่าปี 66 จะมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทะลุ 7 หมื่นคัน ทั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น จากราคาน้ำมันแพง และราคากับสมรรถนะตอบโจทย์ โดยคาดว่าภายใน 3-5 ปี ตัวเลขจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 300,000-350,000 คัน ทำให้ 3 ปีจากนี้ไป มีโอกาสที่รถยนต์ไฟฟ้า จะมีสัดส่วนเกือบ 50% ของรถใหม่ในตลาด และรถยนต์ไฟฟ้าจะทยอยเข้าสู่ตลาดรถมือสองในอีก 4 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้น