ศาลสั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 8 เดือน คดีหมิ่น “ทนายเดชา” พร้อมชดใช้อีก 1 แสนบาท

ศาลสั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 8 เดือน คดีหมิ่น “ทนายเดชา” พร้อมชดใช้อีก 1 แสนบาท

 

1 พ.ย.2566 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ทนายคลายทุกข์” ระบุข้อความว่า วันนี้ เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิพากษาจำคุก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เป็นเวลา 8 เดือน รอการลงโทษ 2 ปี และให้โฆษณาและชำระค่าเสียหาย กรณีกล่าวหาทนายเดชาแย่งคดีแตงโมจากทนายกฤษณะ ในรายการโหนกระแส คดีหมายเลขดำที่ อ.775/2565 ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่าง นายเดชา โจทก์ กับ นายอัจฉริยะ จำเลย ศาลพิพากษาดังนี้

1.ในประเด็นแรก โจทก์เป็นผู้เสียหายหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในขณะนั้นจำเลยได้เข้าร่วมรายการโหนกระแส และทางนักข่าวได้โฟนอินไปยังโจทก์ให้เข้าร่วมรายการ โดยในขณะนั้นโจทก์กำลังตอบคำถามของพิธีกรในทำนองว่า หากใครเผยแพร่รูปศพของแตงโม หรือรายละเอียดในสำนวนคดีมาเปิดเผยจะถูกดำเนินคดี

ในขณะนั้น จำเลยได้กล่าวถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงว่า อย่าลืมนะ คุณไปแย่งคดีเขานะ ไปแย่งคดีทนายกฤษณะ ตอนที่ศพเขาเผยแพร่นะครับ คุณเป็นแค่คนมาแย่งคดีกฤษณะไปทำนะครับ คุณไม่แย่งได้ไง โดยมารยาทเค้าไม่ทำกันหรอกในวงการทนาย

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

หากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในขณะนั้นโจทก์กำลังตอบคำถามพิธีกรรายการเกี่ยวกับเรื่องคดีของแตงโมอยู่อีกประเด็นหนึ่ง และจำเลยได้กล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์ โดยที่เนื้อหาประเด็นในการกล่าวถ้อยคำนั้น เป็นคนละประเด็น คนละเรื่องกับโจทก์ ดังนั้น จึงถือได้ว่าในขณะนั้นโจทก์และจำเลยไม่ได้มีการโต้เถียงกันตามที่จำเลยนำสืบ

2.ประเด็นต่อมา การกระทำของจำเลยเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ได้มีเอกสารการแสดงความคิดเห็นของบุคคลทั่วไปที่เข้ารับชมรายการโหนกระแส ในขณะที่จำเลยได้มีการหมิ่นประมาทโจทก์มายืนยัน จำนวนหลายรายการ ว่า บุคคลทั่วไปที่ได้รับชมรายการดังกล่าว เมื่อได้ยินถ้อยคำหมิ่นประมาทของจำเลยแล้ว จะเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี ไปแย่งคดีของบุคคลอื่นมาทำ

ประกอบกับจำเลยได้กล่าว ยืนยันข้อเท็จจริงในขณะออกรายการว่า ไม่แย่งได้ไงโดยมารยาทเค้าไม่ทำกันหรอกในวงการทนาย ถ้อยคำดังกล่าวยิ่งทำให้บุคคลทั่วไปที่รับชมรายการดังกล่าวยิ่งเข้าใจว่าสิ่งที่จำเลยพูดนั้นเป็นความจริง การกระทำของจำเลยจึงทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม

และ 3.ในส่วนของค่าเสียหายที่โจทก์เรียกมาในส่วนแพ่งจำนวน 300,000 บาท

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ไม่ได้มีเอกสารนำสื่อประกอบว่าตัวโจทก์ได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงใด แต่โจทก์ได้เบิกความยืนยันข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้รับความเสียหายหลังจากที่จำเลยทำการหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้บุคคลทั่วไปว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ไม่มีใครกล้าว่าจ้างโจทก์ ประกอบกับจำนวนยอดผู้ชมในขณะที่จำเลยทำการหมิ่นประมาทโจทก์นั้นมียอดผู้ชมอยู่ที่ 3.2 ล้านคน ศาลจึงเห็นว่าโจทก์ได้รับความเสียหายในวงกว้าง

ศาลได้พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าเสียหายในส่วนแพ่งให้แก่โจทก์ จำนวน 100,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสามต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“พาณิชย์” ชี้เป้าผู้ประกอบการไทยลงทุน ทำการค้า ร่วมมืออาหารฮาลาลกับมาเลเซีย
ตั้งกรรมการสอบ 2 สห. นำขบวน "ไฮโซเก๊" รับสารภาพแล้วถูกจ้างไป อ้างดัดแปลงรถ ไม่ใช่ของหลวง
"ไฮโซเก๊" โดนแฉอีก มีรถนำขบวน แต่ขากลับนั่งวิน พบประวัติสุดฉาว คดีติดตัวเพียบ
จนท.พบเพิ่ม 4 ผู้สูญหาย ใต้ซากตึก สตง.โซน C เตรียมนำเครนยกแผ่นปูนเปิดทาง
จนท.ดีเอสไอ คุมตัวโบรกเกอร์แก๊ง “หมอบุญ” สอบเข้ม คาดส่งฟ้องในสัปดาห์นี้
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) รถบรรทุกหนักไร้คนขับของจีนทดสอบวิ่งในซินเจียง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน)\ หมอกขาวห่มแสงอรุณส่อง 'ภูเขาอูเหมิง' ในยูนนาน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนขุดพบ 'ภาพวาดในเปลือกหอย' เก่าแก่ 2,000 ปี
“นายกฯ อิ๊งค์” บี้ผลสอบข้อเท็จจริงตึก สตง.ถล่ม ลั่นต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด
"อิหร่าน" ตอกหน้า ไล่ "มะกัน" ไปคุยอ้อม หลัง "ทรัมป์" โวเจรจาตรงเสาร์นี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น