ใจอำมหิต “นิติเวช” เผยผลตรวจ 2 ตา-ยาย ชัดถูกวางยากล่อมประสาทชนิดรุนแรง หวังฮุบสมบัติ 500

ใจอำมหิต "นิติเวช" เผยผลตรวจ 2 ตา-ยาย ชัดถูกวางยากล่อมประสาทชนิดรุนแรง หวังฮุบสมบัติ 500

จากกรณีที่ 2 ตา-ยาย ผู้เสียหาย เข้าร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอดว่า ถูกลูกสาวคนเล็กวางยาเพื่อฮุบสมบัติกว่า 500 ล้านบาท ผ่านการโอนทรัพย์สินต่าง ๆ ไปเป็นชื่อลูกสาวคนเล็กโดยไม่รู้ตัวและนำเงินไปใช้ จนนำมาสู่การพาสองตายายไปตรวจเส้นผมหาสารพิษที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม

ล่าสุด วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาสองตายายมายังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อฟังผลการตรวจเส้นผมของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นจากการตรวจเส้นผมของยาย พบสารเคมีบางชนิดที่เป็นสารเสพติด ซึ่งจากการตรวจสอบย้อนหลังกลับไป พบว่า เป็นยาที่อยู่ในช่วงที่อยู่ลูกสาวคนเล็กพอดี ค่อนข้างชัดเจนว่า ยายและตาถูกวางยาในช่วงเวลาที่พำนักกับลูกสาวคนเล็ก ด้าน นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลทำหน้าที่ แจ้งผลการตรวจจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้ตายายรับทราบเท่านั้น ส่วนหลังจากนี้ในทางคดีเป็นเรื่องของตำรวจ โดยผลของเส้นผมคุณตานั้น ไม่พบสารหรือวัตถุออกฤทธิ์แต่อย่างใด ส่วนผลของเส้นผมคุณยายนั้น พบสารออกฤทธิ์ส่งผลต่อการกล่อมประสาท แต่ขอสงวนชื่อยาซึ่งเป็นยาที่วัยรุ่นชอบนำไปผสมเป็นยามึนเมา 4×100

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านทีมนักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ยาที่ตรวจเจอเป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ที่มีฤททธิ์ระหว่างพาราเซตามอลกับมอร์ฟิน โดยผลการตรวจเส้นผมคุณตาคุณยาย พบว่า ตัวอย่างที่ได้มาจากเส้นผมของคุณตา มีความยาวเพียง 5.2 เซนติเมตร จึงทำให้ย้อนกลับไปได้เพียงแค่ 5 เดือน คือประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จึงไม่พบสิ่งที่ผิดปกติ พบเพียงแต่ยาที่ทานตามปกติเพื่อรักษาอาการ 3-4 ตัว ส่วนผมของคุณยาย มีความยาวถึง 13.7 เซนเซนติเมตร สามารถตรวจย้อนไปถึงเดือนสิงหาคม 2565 จึงมีการตรวจเปรียบเทียบกันในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 กับเดือนสิงหาคม 2565 ที่อยู่กับลูกสาวคนเล็ก พบว่าทั้งสองช่วงเวลา ที่คุณยายทานรักษาอาการปกติประมาณ 3-4 ตัว แต่ในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 ปรากฏว่ามีสารยาถึง 6-7 ตัว โดยตัวที่เพิ่มมา 2-3 ชนิด พบว่าเป็นยารักษาอาการแก้ปวดชนิดรุนแรง เชื่อว่าเป็นยาที่ทานในระหว่างอยู่กับลูกสาวคนเล็ก สำหรับยาตัวนี้ ในทางการแพทย์ ถือว่าเป็นยาที่ต้องควบคุมอย่างยิ่ง จะไม่มีการจ่ายรักษาเป็นการทั่วไป ยิ่งอาการป่วยของคุณตาคุณยายยิ่งไม่สามารถทานร่วมกับยาตัวอื่นแก่คุณตาคุณยายได้ เนื่องจากยากลุ่มนี้ มีผลต่อสารสื่อประสาทและมีปฏิกิริยาร่วมกับยารักษาทั่วไปของคุณตาคุณยาย จะส่งผลต่อการระบบประสาทและทำลายสมอง จึงส่งผลให้ที่ผ่านมาคุณตาคุณยายมีอาการเบลอ หากมากเกินไปอาจจะเสียชีวิต แต่ระยะหลังมีอาการดีขึ้น เนื่องจากไม่ได้รับยาตัวเดียวกันนี้ ตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็ไม่ทราบว่า เหตุใดถึงนำยาตัวนี้มาให้คุณตาคุณยายทาน และไม่ทราบว่าทั้งคู่มีอาการปวดถึงขนาดต้องกินยาหรือไม่ ซึ่งต้องเป็นเรื่องการสืบสวนสอบสวนของทางตำรวจต่อไป

ด้านคุณตาคุณยายกล่าวว่า ปกติลูกสาวคนเล็ก จะเป็นคนจัดยามาให้ทาน ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายาที่ลูกสาวจะมาให้ทานมียาอะไรบ้าง แต่ยาตัวนี้ปกติจะจัดให้ทานทุกวัน วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2-3 เม็ด และไม่ใช่เป็นยาที่หมอจัดให้ทาน ทั้งคู่รู้สึกเสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น ไม่น่ามาทำกับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ หลังจากนี้หากลูกสาวมาขอขมาลาโทษ ก็จะไม่ให้อภัยและจะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมที่จะตัดขาดจากความเป็นพ่อแม่ลูก เพราะสมบัติทุกอย่างลูกสาวคนเล็กก็เอาไปหมดแล้ว ทุกวันนี้ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว เชื่อว่าตัวลูกเขยหรือสามีของลูกสาวคนเล็กก็มีส่วนรู้เห็น เพราะลูกเขยมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดและชอบพูดจาก้าวร้าวกับตนมาโดยตลอด

ด้าน น.ส.อาภาพัสร์ พันธุ์มุง หลานสาวของตายายกล่าวว่า จากผลตรวจของทางแพทย์ ยืนยันว่าไม่ใช่ยาที่คุณตาคุณยายทานเป็นปกติเพื่อรักษาอาการป่วย ซึ่งยาดังกล่าว หากให้ในปริมาณที่มากจะมีผลเป็นสารเสพติดได้ เชื่อว่าคนที่เอามาทานน่าจะมีความรู้เรื่องยาพอสมควรเพื่อให้ออกฤทธิ์กล่มประสาท ส่วนเรื่องการดำเนินคดีหลังจากนี้จะต้องไปปรึกษาทนายความและตำรวจต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สำนักงานสลากฯ" เห็นชอบขายสลาก N3 ต่อเนื่อง งวดละ 5 ล้านรายการ พร้อมเพิ่มผู้แทนเดินจำหน่าย
ระทึก จนท.ช่วย "ช้างป่า" ขึ้นจากสระน้ำ ก่อนทำร้ายชาวบ้านบาดเจ็บสาหัส
ทางการจีนขอบคุณตร.ไทย ช่วยพลเมือง "ดารานายแบบ-เหยื่อชาวจีน" พ้นเงื้อมมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
“นายกฯ” ยินดี “กรุงเทพฯ” ติดอันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกปี 2025 ย้ำรบ.เร่งเดินหน้าพัฒนาทั่วประเทศ
"ทักษิณ" หาเสียงอบจ.หนองคาย ยันลุยแก้หนี้-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มั่นใจลดค่าไฟต่ำกว่า 3.70 บาท
"เจ้าของร้านทอง" ไหวพริบดี ช่วย "เหยื่อ" จากแก๊งคอลฯ หลังมิจฉาชีพอ้างเป็น ตร.บังคับขายทอง
‘อ.ปรเมศวร์’ วิเคราะห์ชัด ทำไมรื้อ‘คดีแตงโม’ ถึงเป็นไปได้ยาก
รองโฆษกฯ เผย ไทยหนาวอีกรอบ 19-24 ม.ค.นี้ เตือนปชช.เฝ้าระวัง 4 กลุ่มโรคภัยสุขภาพ
"สุพิศ" สู้ศึก อบจ.สงขลา ชูนโยบาย ยกระดับ 4 อำเภอชายแดนใต้ เป็นศูนย์กลางศก.-การค้า หนุนเพิ่มมูลค่าเกษตรกรรม
“ทัพพม่า”จัดหนัก! ส่งเดนตายไล่ตีคืนทีละค่าย บินรบรัสเซียหย่อนบึ้มตูมสนั่น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น