"แก๊งอาชญากรรม" หนักเริ่ม ตำรวจเอาไม่อยู่ ประธานาธิบดีบราซิล ประกาศ สั่งทหาร 3,600 นาย คุมเข้มท่าเรือ-สนามบิน
ข่าวที่น่าสนใจ
ประธานาธิบดี ลูอิซ อี-นา-ซี-โอ ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล ลงนามในคำสั่งให้ส่งทหาร เข้าไปเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยตามท่าเรือ สนามบิน และชายแดน โดยลูลา พูดในที่แถลงข่าวว่า เวลานี้สถานการณ์อยู่ในจุดที่ร้ายแรงมาก จำเป็นต้องให้รัฐบาลกลางเข้าไปมีส่วนร่วมแบบเต็มศักยภาพ เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลของรัฐต่าง ๆ และตัวประเทศบราซิลเอง ในการกำจัด “แก๊งอาชญากรรม”
คำสั่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการใหญ่ ที่จะรวมถึงการเพิ่มจำนวนตำรวจส่วนกลางใน ริโอ เดอ จาเนโร ยกระดับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ใช้ในการข่าว
รัฐบาลจะระดมทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ 3,600 นาย ลาดตระเวนและสอดส่องสนามบินนานาชาติในริโอฯ และเซาเปาโล ตลอดจนท่าเรือ 2 แห่งในริโอ ฯ กับท่าเรือซานโตส ในเซาเปาโล
สนามบินและท่าเรือเหล่านี้ คือ ฮับส่งออกโคเคนไปยุโรป และขนถ่ายอาวุธเถื่อนทั้งหลายที่นำมาใช้ก่อเหตุรุนแรงในบราซิล อีกด้าน ทหารบกและทหารอากาศ จะเพิ่มคุมเข้มชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นต้นทางอาวุธและโคเคนเข้าไปในบราซิล โดยมุ่งไปที่รัฐแถบตะวันตก ได้แก่
- รัฐปารานา
- มาโตกรอสโซ
- มาโตกรอสโซ โด ซุล
มาตรการที่ออกมานี้เป็นมาตรการชั่วคราว และจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคมปีหน้า มีขึ้นท่ามกลางคลื่นเหตุรุนแรงระลอกใหม่หลายจุด หนักสุด คือที่ ริโอ เดอ จาเนโร เริ่มจากเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม หมอ 3 คน ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ที่บาร์ริมหาดแห่งหนึ่งในย่านผู้มีอันจะกิน เพราะ มือปืนเข้าใจผิดว่าทั้ง 3 คน เป็นสมาชิกแก๊งคู่อริ
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ตำรวจริโอฯ วิสามัญหลานชายของหัวหน้าแก๊งหนึ่ง สมาชิกแก๊งสำแดงเดชอาละวาดเผารถบัสอย่างน้อย 35 คัน เพื่อระบายแค้น
แก๊งที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า มิลิเทีย (militia) สำหรับบราซิล แรกเริ่มเป็นเหมือนกับกลุ่มอาสาสมัคร มีทั้งอดีตตำรวจ ดับเพลิงและทหาร รวมตัวกันรับมือกับภาวะไร้ขื่อแปในชุมชนของตัวเอง แล้วขยายอิทธิพลมากขึ้นทุกทีในคริสต์ทศวรรษ 1990 มีการเก็บค่าคุ้มครองและบริการจากประชาชน ก่อนจะขยับขยายกลายเป็นแก๊งขนค้ายาเสพติดเสียเอง เป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลกลางและรัฐบาลระดับรัฐแก้ไม่ตกมานาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง