นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เปิดเผยกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า ปกติแล้ว ขนในรูจมูกจะทำหน้าที่เป็นตัวคัดกรองฝุ่นละอองเพื่อไม่ให้เข้าสู้ร่างกาย โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดชิ้นใหญ่ หรือ ขนาด PM 10 ขึ้นไปที่ขนจมูกพอจะดักจับได้ แต่หากถ้าเป็นฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เป็นฝุ่นขนาดเล็กไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งขนจมูกของเราไม่สามารถดักฝุ่นได้ 100% ฝุ่นละอองเหล่านี้ ก็จะหลุดเข้าไปในหลอดลมไปยังถุงลม และยังสามารถทะลุถุงลมไปยังหลอดเลือดได้ อาจทำให้หลอดเลือดในร่างกาย , หลอดเลือดหัวใจ และสมองอักเสบได้
ตามกันต่อกับกรณีที่ “ท็อปนิวส์” เปิดประเด็นไว้ ก็คือ กรณีที่ชาวบ้านย่านวัชรพล ร้องเรียนว่า ต้องทนทุกข์กับการใช้ชีวิตกับฝุ่นละอองที่เกิดจากแพลนต์ปูน 5 บริษัท ที่ตั้งอยู่ติดกับพื้นที่ชุมชนมานานอยู่หลายปี ส่งผลให้สุขภาพร่างกายเริ่มทรุด และเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ล่าสุด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ ก็ออกมาเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากฝุ่นละออง ซึ่งอันตรายจนสามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงได้
ข่าวที่น่าสนใจ
คุณหมอ มนูญ ยังย้ำอีกว่า หากฝุ่นยิ่งมีขนาดเล็ก ก็ยิ่งจะมีมีความอันตรายต่อร่างกายมนุษย์มากขึ้นไปอีก ซึ่งนำไปสู่โรคถุงลมโป่งพอง , โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหลอดเลือดตีบ , มะเร็งในปอด และอาจทำให้มีโรคอื่นแทรกได้
ฉะนั้น การสูดดมฝุ่นละออง PM 2.5 หากสูดดมเข้าไปจะเกิดอันตรายต่อร่างกายทันที และเป็นการสะสมสิ่งอันตรายในร่างกายไปเรื่อยๆจนเกิดโรคดังกล่าวขึ้น หากเป็นไปได้ควรสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกเคหะสถาน หรือนอกที่พักของตัวเอง ถึงแม้จะคัดกรองไม่ได้ทั้งหมด 100% แต่ก็ช่วยกรองฝุ่นขนาด PM 10 ได้ดี หากเป็นไปได้ควรใส่หน้ากากอนามัย N95 ที่สามารถคัดกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้
โดยอยากฝากไปถึงโรงงานอุตสาหกรรม หรือจำพวกไซด์งานรับเหมาก่อสร้าง อย่าสร้างฝุ่นละอองมากเกินไป ขอให้อยู่ในมาตราการและช่วยกันรักษาความสะอาด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-