logo

“ชัยธวัช” โชว์จำอวด ลั่นใหญ่ พร้อมยกระดับลงโทษ “ปูอัด” หลังเมินมติพรรคก้าวไกล ไม่แสดงตัวรับผิดชอบ

"ชัยธวัช" โชว์จำอวด ลั่นใหญ่ พร้อมยกระดับลงโทษ "ปูอัด" หลังเมินมติพรรคก้าวไกล ไม่แสดงตัวรับผิดชอบ

วันที่ 3 พ.ย. 66 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสส.คุกคามทางเพศว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่พรรคต้องเรียนรู้ และต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนไม่น้อยรวมถึงสส.ในพรรคที่ผิดหวังกับผลการลงมติที่เกิดขึ้น แต่ประเด็นสำคัญที่ประชาชนสนใจหรือมีคำถามก็คือว่า ทำไมสองกรณีที่พรรคเห็นว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศและขัดวินัยพรรคขั้นร้ายแรงเหมือนกัน แต่มาตรการการลงโทษไม่เท่ากัน ตนเรียนว่าคงไม่เป็นธรรมที่จะบอกว่าเกิดการอุ้มกัน เพราะประเด็นสำคัญที่เป็นความแตกต่างของสองกรณีที่เกิดขึ้น และทำให้เพื่อนสส.มีความเห็นที่ต่างกันก็คือ กรณีที่หนึ่ง ปรากฏกฎข้อเท็จจริงว่า นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ได้ใช้สถานะตำแหน่งและอำนาจของตัวเอง ทั้งตอนเป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.จนมาถึงสส.ในทางมิชอบ และดึงผู้เสียหายเข้าสู่ความสัมพันธ์ในลักษณะคุกคามทางเพศ รวมถึงเมื่อเป็น สส.แล้วก็ยังไปสร้างความเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งพยายามที่จะไปพูดคุยกับมารดาผู้เสียหาย เพื่อให้ยุติการร้องเรียน โดยให้ข้อมูลว่าการต่อสู้ทางผู้เสียหายจะไม่มีวันชนะ

ส่วนที่นายวุฒิพงศ์ให้ข้อมูลว่าผู้เสียหายเป็นฝ่ายเริ่ม และมีการส่งข้อความส่งคลิปที่ไม่เหมาะสมมาให้ตัวเองนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อคณะกรรมการวินัยของพรรค กลับไม่ได้เป็นแบบนั้น มันมีการชักจูงโน้มน้าวให้ผู้เสียหายเข้าใจหรือหวังไปว่าตนเองจะได้เป็นคนที่ใกล้ชิดในฐานะผู้ช่วยหรือเลขาฯของสส.ในอนาคต เป็นการสร้างเงื่อนไขให้เข้าสู่ความสัมพันธ์ เราจึงถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ พูดง่ายๆเหมือนการคอรัปชั่นเรียกรับผลประโยชน์จากสถานะหรืออำนาจของตนเองที่มีในปัจจุบันและอนาคต เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นสำคัญที่สุดที่ทำให้ สส.ลงมติเห็นว่ากรณีนี้ควรขับออกจากพรรคมากกว่ากรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. เพราะกรณีนายไชยามพวานไม่ชัดเจนว่ามีการใช้อำนาจไปคุกคามทางเพศเท่ากับกรณีนายวุฒิพงศ์ ดังนั้นการบอกว่าอุ้มกันคงไม่ใช่ อีกทั้งเท่าที่ผมทราบสส.กทม.หรือคนสนิทกันก็ไม่ได้ยกมือช่วยนายไชยามพวานทั้งหมด

ส่วนจะสามารถเปิดเผยสส.ที่โหวตไม่ให้นายไชยามพวานพ้นจากสมาชิกพรรคได้หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนได้บอกกับสส.ว่าเพื่อไม่ให้เกิดการไม่เข้าใจประเด็นแล้วไปล่าแม่มดกัน ตนจึงขอให้สส.ทุกคนไม่ไปพูดต่อว่าใครลงมติอย่างไร ดังนั้นตนจึงเปิดเผยรายชื่อไม่ได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกระแสกดดันให้นายไชยยามพวานลาออก พรรคจะเจรจานอกรอบหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ผู้บริหารพรรคหรือคนในพรรคจำนวนหนึ่งได้พยายามพูดคุยกับนายไชยามพวานว่าให้แสดงความรับผิดชอบทางการมเมือบงมาตั้งแต่ก่อนการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและสส. แต่นายไชยามพวานยังคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด อย่างไรก็ตามเมื่อมีมติออกมา ตนได้โทรไปแจ้งมติกับนายไชยามพวาน และเมื่อวานก็ได้พูดคุยแนะนำแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง รวมถึงในพรรคก็เกิดกระแสเรียกร้องในทำนองเดียวกัน แต่นายไชยามพวานขอเวลาในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตามเมื่อวานกรรมการบริหารพรรคก็ได้ประชุมกันอีกครั้ง เพื่อจะมีมติลงโทษนายไชยามพวานในทางวินัยอย่างเป็นทางการ พร้อมทำหนังสือแจ้งไปยังนายไชยามพวานในช่วงค่ำ

โดยสาระสำคัญคือ 1.จะถูกตัดสิทธิที่พึงมีทั้งหมด 2.นายไชยามพวานจะต้องแถลงยอมรับผิด และขอโทษต่อสังคมรวมถึงผู้เสียหายอย่างจริงใจภายในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งต้องชดเชยเยียวยาแก่ผู้เสียหายทั้งหมดตามสมควร อีกทั้งการแถลงยอมรับผิดต้องบอกด้วยว่ามาตรการที่จะเยียวยาเป็นอย่างไร 3.ต้องยุติไม่ก่อความเสียหายต่อผู้เสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมหลังจากนี้ด้วย และ 4.ไม่กระทำการอันใดที่เป็นการคุกคามทางเพศหรือขัดหรือแย้งต่ออุดมการณณ์พรรคอีก แต่หากนายไชยามพวานไม่แสดงความรับผิดชอบ ก็จะถือว่าขัดมติพรรคและมติกรรมการบริหารพรรค นำไปสู่การพิจารณาโทษทางวินัย และจะเป็นเงื่อนไขในการมีมติขับออกจากพรรค

 

ส่วนที่มีการกล่าวหาว่ามีผู้ช่วย สส.ของนางสาวเบญจา แสงจันทร์ สส.และในฐานะกรรมการบริหารพรรค มีความขัดแย้งกับนายวุฒิพงศ์นั้น นายชัยธวัช ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะนางสาวเบญจาไม่ได้เป็นคณะกรรมการวินัยที่เข้ามาสอบในกรณีนี้ อีกทั้งเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการบริหาร นางสาวเบญจาได้ของดออกเสียงกรณีนายวุฒิพงศ์ เพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่านางสาวเบญจามีอคติในการพิจารณา ขณะเดียวกันนางเบญจาไม่ได้แต่งตั้งผู้ช่วยสส.โดยอำเภอใจหรือความสัมพันธ์ส่วนบุคคล แต่เป็นการเสนอรายชื่อของพรรคให้พิจารณาแต่งตั้ง จึงยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งหรืออคติส่วนตัว ระหว่างกรรมการบริหารพรรคกับนายวุฒิพงศ์ ส่วนกรณีที่นายวุฒิพงศ์บอกว่ามีเรื่องความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีมาเกี่ยวข้องนั้น กรณีนี้ต้องพิจารณาแยกออกจากกรณีคุกคามทางเพศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โสภณ" ลั่น ร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ต้องปฏิวัติการศึกษา เท่าเทียม ทั่วถึง ทันยุค
ครม.นัดพิเศษ แต่งตั้ง "หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์" นั่งเลขาธิการนายกฯ
ตามรวบ "สาวแสบมิจฉาชีพออนไลน์" ส่งลิ้งลวงเหยื่อ ขอคืนเงินค่า FT ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี เสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
ททท.จัดต่อเนื่อง "Amazing Muay Thai Experiences" ตอกย้ำเสริมเสน่ห์ไทยด้วยกีฬา "มวยไทย" ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสประสบการณ์ถึงถิ่นกำเนิดมวยดี 4 สาย
จนท.บุกตรวจ "แรงงานต่างด้าว" 149 คน แอบเช่าบ้าน 2 หลังในชุมชนขอนแก่น เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
"วรชัย" วอน "เสรีพิศุทธ์" อย่าตั้งเป้าโจมตี ขอโอกาสรัฐบาลทำงาน ให้เวลาพิสูจน์แก้ปัญหาปชช.
“อ.ธรณ์” ห่วง “ฮาลองเบย์” สถานที่สวยงาม ถูกพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" พัดถล่ม หวังให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย
ไร้ปาฏิหาริย์ พบแล้ว "นทท.เบลเยี่ยม" หลังหายตัวลึกลับ ทีมค้นหาพบร่าง บริเวณท้ายฝาย "น้ำตกแม่เย็น"
"พิพัฒน์" เดินหน้า 1 ต.ค. ปรับค่าแรง 400 พร้อม 7 มาตรการ ลดกระทบนายจ้าง-ลูกจ้าง ถกพณ.คุมสินค้าแพง
เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ตราดรับฟังสถานการณ์บริหารจัดการน้ำรับมือน้ำท่วมหลังพายุไต้ฝุ่นนางิ และ ฝนตกหนักกลางเดือนกันยายน หวั่นท่วมรอบ 2

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น