“วัคซีน HPV” กทม. เตรียมฉีดฟรี หญิงอายุ 11-20 ปี เริ่ม 8 พ.ย.นี้

นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย แจ้งว่า สำนักอนามัย ได้เริ่มให้บริการฉีดวัคซีน HPV ครั้งแรกในปี พ.ศ.2558 ภายใต้โครงการให้บริการวัคซีนป้องกันเอชพีวีในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมะเร็งปากมดลูกให้แก่นักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 แห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

โดยมีผลความครอบคลุมวัคซีนเอชพีวีอยู่ที่ปีละประมาณร้อยละ 96-98 และดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึง ปี 2560 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ขยายการให้วัคซีน HPV ในนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั่วประเทศซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์ของประชาชนชาวไทย โดยที่ผ่านมานับว่าได้ให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเป้าหมายไปแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 จึงคาดการณ์ว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีนในครั้งนี้ประมาณ 90,000 ราย

ในส่วนของการเตรียมความพร้อมให้บริการวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ได้วางแผนตามแนวทางที่ สธ.กำหนดภายใต้บริบทของสำนักอนามัยในการดำเนินงานให้วัคซีนขั้นพื้นฐานในโรงเรียน พร้อมทั้งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เด็กและผู้ปกครอง ผ่านโรงเรียนและสื่อสิ่งพิมพ์

สำนักอนามัย มีแผนการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย 4 ส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) และสนับสนุนความร่วมมือรณรงค์การฉีดวัคซีน HPV ในกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง อายุ 11-20 ปี ทั้งในและนอกระบบการศึกษา ดังนี้

1. ประสานความร่วมมือกับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในการประชาสัมพันธ์รายละเอียดของนโยบายและจุดให้บริการวัคซีนแก่สถานศึกษาและ/หรือโรงเรียนทุกสังกัดที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง อายุ 11-20 ปี
2. ประสานความร่วมมือกับสำนักงานประชาสัมพันธ์ และสำนักงานเขต ในการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้นโยบายและสิทธิประโยชน์อย่างทั่วถึงและเป็นวงกว้าง
3. ประสานความร่วมมือศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย ทั้ง 69 แห่ง ในการวางแผนดำเนินการฉีดวัคซีนเชิงรุกในโรงเรียนรูปแบบ School-based แก่โรงเรียนที่มีกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 11-18 ปี หรือกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รวมทั้งเปิดให้บริการในรูปแบบ walk in สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 18-20 ปี หรือกำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นอุดมศึกษาปีที่ 1 – 2 และกลุ่มเป้าหมายที่อยู่นอกระบบการศึกษา โดยวางแผนจัดกิจกรรม kick-off 8 พ.ย. พร้อมกับเขตสุขภาพอื่น ๆ ในโรงเรียน ในกทม.