วันที่ 4 พ.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ยื่นต่อส่วนราชการต่างๆ ของรัฐมนตรีหลายรายใน”รัฐบาลเศรษฐา” พบว่า ตอนนี้มีรัฐมนตรีรายหนึ่ง ที่มีหลักฐานเพียงพออันควรไปร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบในลักษณะที่คล้ายกันกับของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดังนั้น ตนเตรียมจะไปยื่นหนังสือด้วยตนเองเพื่อขอให้ กกต. รีบดำเนินการตรวจสอบรัฐมนตรีรายนี้ ว่ายังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นจำกัด เกินร้อยละ 5 หรือไม่ หากยังคงไว้ จะเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ รวมทั้งขอให้ กกต. รีบส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพร้อมทั้งมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งให้รัฐมนตรีรายนี้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย
"เรืองไกร" จ่อร้อง กกต.สอบคุณสมบัติ รมต.เพิ่มอีก 1 คน ระบุถือหุ้นเกิน 5% หรือไม่ จี้ส่งศาลรธน. เพื่อสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แบบ"ศักดิ์สยาม"
ข่าวที่น่าสนใจ
นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีดังกล่าว เปรียบเทียบได้กับคดีของนายศักดิ์สยาม ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
ประธานสภาฯ จึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณา วินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมี คำวินิจฉัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-