วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2566) นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวท็อปนิวส์ หลังจากพ้นโทษมาร่วมสองสัปดาห์ จากคดีร่วมกันค้ายาเสพติด โดย เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่าชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ในห้วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำ เป็นเวลาแห่งความทรมานที่สุดในชีวิต เพราะต้องต่อสู้คดียาวนานกว่า 6 ปี และต้องไปถูกจองจำนานถึง 3 ปีเศษ ทั้งนี้ เบนซ์ เรซซิ่ง ได้เปิดเผยข้อมูลในการต่อสู้คดี ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์ ในการต่อสู้คดี จำนวนมาก เคยถูกทนายความ ที่มีคนรู้จักแนะนำให้มาทำคดี ยักยอกเงินค่าประกันตัว 3.1 ล้านบาท จนมีการฟ้องร้องเป็นคดี ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อปี 63 ควบคู่ไปกับการร้องคณะกรรมการมรรยาททนาความ สภาทนายความฯ ซึ่งก็มีการดำเนิน ลบชื่อทนายความคนดังกล่าว ออกจากสารบบ จากนั้น จึงมีการฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินคืน ซึ่งศาลก็สั่งให้จ่าย แต่ทนายความคนดังกล่าว ก็ไม่จ่าย จนต้องฟ้องเป็นคดีล้มละลาย แต่สุดท้าย ก็ไม่มีทรัพย์สินให้ยึด สาเหตุที่ไว้ใจ ให้มาทำคดีเพราะเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ มีตำแหน่งวิชาการนำหน้าที่เป็นถึงผู้ช่วยศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ ไม่นึกว่าสุดท้ายจะโกงเงินเรา ส่วนคดีอาญา ตอนนี้จบแล้ว ศาลสั่งจำคุก 3 ปี แต่เงินก็ไม่ได้คืนอยู่ดี
ไม่เพียงเท่านั้น เบนซ์ เรซซิ่ง ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังจากที่ตนตกเป็นผู้ต้องหา เป็นคดีดังก็มีทนายความชื่อดัง ที่เป็นที่รู้จัก ติดต่อมาหา พร้อมอาสาทำคดีให้ โดยติดต่อมาทางคุณแม่ของตน ระบุว่าคดีนี้เขาทำได้ แต่ก็เรียกเงินค่าทำคดีเยอะมาก เป็นเงินจำนวน 20 ล้าบาท แต่คุณแม่ก็ไม่ได้ตกลง และพูดคุยอะไรเรื่องจึงจบแค่นั้น เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวเสริมว่า ทนายคนนี้เขาไม่ได้ดูพฤติการณ์ว่า รูปคดีเป็นอย่างไร จะสู้ได้หรือสู้ไม่ได้ แต่ขอเรียกเงินก่อนเลย 20 ล้านบาท โดยที่ไม่รู้ว่า ข้อมูลเกี่ยวพันอะไรยังไง จะสู้ได้หรือไม่ มาถึงก็เรียกก่อนเลย ขนาดคุณแม่เตรียมเอกสารนับพันฉบับ ทนายคนดังก็ไม่ดูเอกสารสักชิ้น