อดีตสาวธ.ก.ส.โดดป้องโกงจำนำข้าว โร่แจ้งลาออกเพื่อไทย เหตุต้องการความช่วยเหลือ เดือดร้อนหนักคดีรุมเร้า

อดีตสาวธ.ก.ส.โดดป้องโกงจำนำข้าว โร่แจ้งลาออกเพื่อไทย เหตุต้องการความช่วยเหลือ เดือดร้อนหนักคดีรุมเร้า

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 66 นางสาวชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตพนักงานวิเคราะห์งานสินเชื่อ ฝ่ายกิจการนโยบายรัฐ สังกัดงบประมาณภาครัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งเคยออกมาให้ข้อมูลอ้างว่ามีการคิดมูลค่าความเสียหายเกินจริงในคดีทุจริตจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และต่อมาเจ้าตัวถูกธ.ก.ส.เลิกจ้าง และฟ้องร้อง

โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นุชแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน มันมีปัญหากระทบการต่อสู้คดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภายในสัปดาห์หน้า นุชจำเป็นต้องขอออกหมายเรียกทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุเข้ามาในคดีปมจำนำข้าว สำนวนที่นุชถูกออกหมายจับ นัดสืบพยาน 21 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

นางสาวชญาดา ระบุอีกว่า ปัญหามีทั้งเรื่องความปลอดภัย เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องสภาพจิตใจ นุชพยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะไม่นำพาปัญหาอื่นๆเข้ามาในชีวิตแต่มันเป็นเรื่องยากมากๆค่ะ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนุช จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเปิดทางให้สามารถรับความช่วยเหลือจากส่วนอื่นๆได้ หนังสือลาออกจะนำส่งพรรคภายในสัปดาห์นี้ ขอบคุณพรรคเพื่อไทยสำหรับประสบการณ์ทางการเมืองฝากประชาชนติดตาม เพื่อนำพาคดีจำนำข้าวไปถึงศาลฎีกาด้วยนะคะ

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เจ้าตัวยังคอมเมนท์เพิ่มเติมว่า พรุ่งนี้เยือนพรรคเพื่อไทย พยายามไม่นึกถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาด ก้าวไปข้างหน้าดีกว่าค่ะ สู้ๆ

 

 

 

 

ทั้งนี้หากย้อนไปเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 นายสันติ เจริญสุข ผู้ช่วยผู้จัดการ ทำการแทนผู้จัดการ ธ.ก.ส. ได้ออกคำสั่ง ธ.ก.ส.ที่ 11404/2561 เรื่องการเลิกจ้างพนักงาน ระบุว่า ด้วยปรากฏว่า น.ส.ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ พนักงานวิเคราะห์งานสินเชื่อ 7 กลุ่มเพื่อการบริหาร สังกัดฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ มีพฤติกรรมจงใจฝ่าฝืนข้อห้าม หรือคำสั่งของธนาคารอันชอบด้วยกฎหมาย เป็นการกระทำผิดซ้ำพฤติกรรมที่ถูกลงโทษภาคทัณฑ์และธนาคารได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว โดยเขียนข้อความในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ด้วยการตำหนิ ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชา พนักงานผู้อื่นและธนาคาร และนำเอกสารข้อมูลของธนาคารที่ไม่ควรเผยแพร่ ข้อมูลที่ใช้สื่อสารภายในธนาคารโดยเฉพาะ หรือข้อมูลอื่นใดที่จะก่อให้เกิดข้อสงสัยหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับธนาคาร เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มีบุคคลอื่นมาแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่ทำให้ธนาคารเสื่อมเสียชื่อเสียง

 

นอกจากนี้ยังพบว่า นางสาวชญาดา มีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ละทิ้งงานในหน้าที่ และไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ธนาคารพิจารณาแล้วเห็นว่า นางสาวชญาดา มีพฤติกรรมจงใจฝ่าฝืนข้อห้าม หรือคำสั่งของธนาคารอันชอบด้วยกฎหมาย และกระทำผิดพฤติกรรมที่ธนาคารได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว จนก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของธนาคาร จึงเป็นเหตุสมควรที่ไม่อาจไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 มาตรา 24 (1) และข้อบังคับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ฉบับที่ 4 ข้อ 20 (2) จึงให้เลิกจ้างแก่ นางสาฝชญาดา โดยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย แต่ไม่จ่ายค่าชดเชยเนื่องจาก นางสาวชญาดา ได้จงใจฝ่าฝืนข้อห้าม หรือคำสั่งของธนาคารอันชอบด้วยกฎหมาย และธนาคารได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว ตามระเบียบธนาคาร ฉบับที่ 34 ข้อ 5 (3) ประกอบประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานั้นต่ำของสหภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ ประกาศเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ข้อ 60 (4)

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น