ศรีสะเกษ- แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ชายแดนไทย-กัมพูชา วัดป่าถ้ำผึ้ง กราบไหว้พระนอนองค์ใหญ่ใต้หน้าผาหิน ขอพรเจ้าแม่กวนอิม ที่พึ่งเบิกเนตร ยอดเงินกฐินกว่า 8 แสนบาท คนนับพันร่วมงาน ผู้ใหญ่บ้านเผย ระหว่างจะบูรณะพระประธาน พบงูจงอาง นอนเฝ้า 3 วัน ก่อนจะบูรณะได้

วันที่ 7 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าถ้ำผึ้งดาวดึงส์ บ.โอปังโกว์ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีพิธีเบิกเนตรรูปปั้น พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม หรือเจ้าแม่กวนอิม ปางประธานพรความสำเร็จ รวมฐานสูง 7 เมตร โดยมีพระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ.) ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำผึ้ง และพระครูใบฎีกาพรชัย จันทโก เจ้าคณะ ต.ไพรพัฒนา ร่วมกันเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีประธานอุปถัมป์ฝ่ายฆราวาส หลายท่าน ประกอบด้วย พล.ร.ต.อุดมศักดิ์ ผาสุก,พล.ร.ต.มานิตย์ รัตนะ,ผู้การเจษฎา สมอคร, จ.อ.สุเทพ-นางลัดชฎา และครอบครัว โรจนพร และนายสุรชัย-นางเกสร พร้อมครอบครัว พิมพ์ประไพภร์

โดยภายในพิธีมีการเชิดสิงโต จุดประทัด และรำบวงสรวงถวายเจ้าแม่กวนอิมหลายชุดจากหลายคณะ ก่อนจะร่วมกัน ประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง จากนั้นได้มีการแห่กฐินสามัคคีสายบุญศิษยานุศิษย์แม่ชีกุลจิรา รอบรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 3 รอบ ก่อนจะประกอบพิธีถวายปัจจัยกฐินแก่วัด รวมยอดเงินทั้งสิ้น 812,846 บาท (แปดแสนหนึ่งหมื่นสองพันแปดร้อยสี่สิบหกบาท) ท่ามกลางประชาชนพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาในตัวพระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม และแม่ชีกุลจิรา จากทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด เข้าร่วมพิธีนับพันคน พร้อมกับโรงทานจำนวนมาก ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับวัดป่าถ้ำผึ้งดาวดึงส์ แห่งนี้ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.ภูสิงห์ และได้มีการตั้งเป็นศูนย์อบรมภาวนาสมาธินานาชาติ (หลวงปู่สรวง) วัดป่าถ้ำผึ้ง และเป็นวัดที่สร้างอยู่ในพื้นที่ป่าที่มีความอุดมย์สมบูรณ์ ร่มรื่นและมีหน้าผาหินขนาดใหญ่สวยงาม มีพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่ สีทองเหลืองอร่ามสวยงาม ประดิษฐานอยู่ภายใต้หน้าผา และรูปปั้นหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดินให้กราบไหว้บูชา เหมาะสำหรับผู้แสวงบุญและผู้รักในธรรมชาติ อยู่ห่างจากวัดไพรพัฒนา หลวงปู่สรวง เข้าไปประมาณ 10 ก.ม.เท่านั้น

โดยมีพระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ.) ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำผึ้ง ได้พัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษาเชิงธรรมชาติและปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ของพระสงฆ์และเนกขัมมะจารีชีพราหมณ์ ตลอดจนประชาชนทั่วไป และบูรณะพระนอนให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดย ใช้มิติทางพระพุทธศาสนาเข้ามาผนวกกัน

นายสรวิษฐ์ ละออใสย์ ผู้ใหญ่บ้านโอปังโกว์ กล่าวว่า ที่วัดแห่งนี้มีความร่วมรื่นด้วยป่าธรรมชาติ มีหน้าผาหินที่สวยงาม มีพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่สวยงาม และพระประธานอยู่ภายในศาลาปฏิบัติธรรม พึ่งได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระประธานประจำวัด โดยระหว่างที่มีการบูรณะพระพุทธรูป พบว่ามีงูจงอางมานอนเฝ้าหน้าพระพุทธรูปถึง 3 วัน โดยไม่ยอมไปไหน ก่อนจะสามารเข้าไปบูรณะได้ และในอดีตเคยมีพระธุดงส์ มาพำนักปฏิบัติธรรมตั้งแต่สมัยสงครามเขมรแดง เชื่อกันว่าเป็นหลวงปู่สรวง ประมาณปี 2518-2519 แต่ไม่ได้อยู่ประจำเนื่องจากเป็นป่าหน้าผาสูง ไม่มีน้ำและมีไข้ป่าระบาดหนัก ซึ่งในอดีต จะมีพระธุดงส์แวะเวียนมาพำนักปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำในช่วงระหว่างพรรษา นอกจากนี้ที่วัดแห่งนี้ยังมีรูปปั้นพญานาคที่สวยงาม รวมทั้งรูปปั้น พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ที่พึ่งทำพิธีเบิกเนตรไป ทั้งนี้ ประชาชนนักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้ามาเที่ยวและกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดป่าถ้ำผึ้งแห่งนี้ได้ทุกวัน ผู้ใหญ่บ้านโอปังโกว์ฯกล่าว.

ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์

จ.ศรีสะเกษ, ชายแดนไทย-กัมพูชา, แหล่งท่องเที่ยวใหม่, วัดป่าถ้ำผึ้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง