“ปูอัด ไชยามพวาน” น้ำตาแตก น้อมรับมติก้าวไกลถูกขับพ้นพรรค ยังปากหนักไม่ขอโทษเหยื่อ

“ตนเคยพูดจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายที่เดินออกสภาฯ ต้องขอโทษ 47,650 คะแนน ที่วันนี้ทำให้หลายคนลำบากใจ รวมถึงพรรคก้าวไกล และสังคมด้วย

ส่วนการถูกขับออกจากพรรคในครั้งนี้ยุติธรรมหรือไม่ และการที่ผู้ช่วย สส. ออกมาบอกว่าไม่ยุติธรรมหมายความว่าอย่างไร นายไชยามพวาน ระบุว่า ก็เป็นความคิดของคนใกล้ชิด เพราะพรรคก้าวไกลก็มีความคิดที่หลากหลาย ตนทำให้พรรคเจ็บ มีรอยร้าวมากมาย ก็เหมาะสมแล้วที่จะถูกขับออกมา และไม่อยากให้ประชาชนโทษหรือโกรธพรรค เพราะพี่น้องในพรรคยังพยายามสร้างประเทศในแบบที่อุดมการณ์ใฝ่ฝัน แม้ตอนนี้จะไม่ได้อยู่ในพรรคแล้ว แต่ขออวยพรให้ทุกคนโชคดีจริง ๆ

ส่วนเส้นทางต่อจากนี้จะไปสังกัดพรรคไหน นายไชยามพวาน ระบุว่า ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือมีปัญหาหลายอย่างในพื้นที่ ที่ต้องทำก่อน คงต้องถามประชาชนว่าอยากให้ไปอยู่ไหน ซึ่งตนเองก็มีอุดมการณ์เหมือนพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าจะยังไม่ลาออกจากการเป็นสส. และจะรอให้กระบวนการยุติธรรมสิ้นสุดลง

เมื่อถามว่าการไม่ลาออกจากสส. เป็นการยึดติดหัวโขนหรือไม่ นายไชยามพวาน ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ ตอนนี้ตนเหมือนเด็กที่ได้เรียนรู้มากแล้ว พอมาเป็น สส. ก็ปรับตัวไม่ทัน ทราบดีว่าเป็นบุคคลสาธารณะ และน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์

ส่วนจะขอโอกาสกับพรรค หรือ สส. อีกหรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ไม่ขอโอกาส เพราะเชื่อว่าทุกคนคงพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และขอให้ทุกคนโชคดี สำหรับบทเรียนที่ได้รับในครั้งนี้ เป็นบทเรียนมหาศาลในช่วงวัยนี้ ตนเป็นคนสาธารณะแล้ว ในวันที่เป็นบุคคลธรรมดาอาจทำได้ แต่เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะ ก็ทำไม่ได้แล้ว เป็นบทเรียนให้เพื่อน สส. ทุกคนในอนาคต

ส่วนที่ทางพรรคก้าวไกลบอกว่าเราไม่รู้สึกผิดอย่างแท้จริง สร้างความเสียหายซ้ำให้ผู้เสียหาย ไม่แสดงความจริงใจในการขอโทษผู้เสียหายนั้น นายไชยามพวาน ระบุว่า คำว่าจริงใจ มันก็ตีความได้หลายอย่าง หลายคนอาจตีความไปอื่น ๆ วันนี้เป็นที่บุคคล ไม่อยากทำอะไรให้พรรคต้องแปดเปื้อนไปมากกว่านี้ ก็ขอออกมาให้พรรคเดินหน้าต่อไป

ส่วนการที่ผู้ช่วย สส. ตัดโลโก้พรรคออกจากป้ายหาเสียง แสดงว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับพรรคอีกแล้วใช่หรือไม่ นายไชยามพวาน ระบุว่า ไม่เกี่ยว มนุษย์ทุกคนมีอารมณ์ มีความรู้สึก และยืนยันว่าพร้อมยกมือช่วยเหลือในสภาฯ หากช่วยได้ก็ช่วยเต็มที่ เพราะตนเองเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล

สำหรับการกล่าวถึงผู้เสียหายนั้น ไชยามพวาน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “พูดลำบาก เพราะรักทั้งทีมงาน และรักทั้งพรรค” โดยผู้สื่อข่าวสังเกตว่า นายไชยามพวาน ได้มีอาการน้ำตาคลอเบ้า และนิ่งเงียบอยู่หลายนาที โดยบางจังหวะได้มีการหันหลังเพื่อไปเช็ดน้ำตา