นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี และ น.ส.เต้ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.โกสินทร์ นรสิงห์ รองผู้กกำกับ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หลังไปทำศัลยกรรมใบหน้าที่คลีนิกแห่งหนึ่ง แต่เกิดผลข้างเคียงจนทำให้เสียโฉม รูปหน้าผิดปกติ
ข่าวที่น่าสนใจ
น.ส.น้ำ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณต้นปี 2565 ตนเองได้ไปทำศัลยกรรมจมูกที่คลีนิกแห่งหนึ่ง ย่านถนนรัชดา ในรูปแบบของเคสรีวิวราคาพิเศษ 25,000 บาท แต่พอทำแล้ว จมูกกลับผิดปกติ ไม่เข้ารูปต้องรับการแก้ไขใหม่ มีการถอดซิลิโคนเข้าออกถึง 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ และแก้ไขซ้ำๆ มาต่อเนื่อง รวมแก้จมูกทั้งหมด 16 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี จนในที่สุดต้องตัดสินใจขอยุติการรักษา เพราะทำแล้วไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลง เสียทั้งค่าเดินทาง เจ็บตัว อีกทั้งยังถูกปัดความรับความรับผิดชอบ ทุกวันนี้ต้องใช้ขีวิตอย่างลำบาก หายใจไม่สะดวก เพราะรูปทรงจมูกผิดปกติ ใบหน้าเสียโฉม
ขณะที่ น.ส.เต้ ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนเองได้ไปทำตา 2 ชั้น และทำโครงหน้า กรอโหนกแก้ม กรอข้างแก้ม เลื่อนไรผม โดยหมอกรีดหนังหัว ถลกหนังหัวเลื่อนลงมา และกรีดในปาก โดยหมอใช้เพียงยาชา แต่ไม่ใช้ยาสลบ โดยศัลยกรรมปรับโครงหน้าทำครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน หลังทำเสร็จพบว่า โหนกแก้มปูด หลังจากนั้นไปทำตา 2 ชั้น เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ทำมาแล้วกลับผิดพลาด แผลไม่สวย ตาผิดรูป ไม่เท่ากัน จึงแจ้งหมอ หมอให้กลับไปแก้ จึงไปแก้ตารอบ 2 แต่กลับผิดพลาดมากกว่าเดิม ตนเองถามหาความรับผิดชอบ เพราะไม่อยากแก้กับหมอคนเดิมแล้ว แต่หมอบอกว่า ต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำแล้วสวยได้เลยใน 1-2 วัน ส่วนตัวเสียค่าใช้จ่ายปรับโครงหน้าทั้งหมด 103,000 บาท และทำตาอีก 21,000 บาท แต่ต้องเสียค่ารักษาแก้โครงหน้าจากโรงพยาบาลประมาณ 2 ล้านบาท เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนประมวลเรื่องราวส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-