หลังจากที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มคาร์ม็อบ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 29 ส.ค.นี้ เพื่อนัดหมายกลุ่มมวลชนจัดการชุมนุมคาร์ม็อบ โดยมีข้อความว่า D-Day 2. ก.ย.นี้ 16.00 น. BTS อโศก มีรถขับรถมาเลย (ขับวนหรือจะจอดก็ได้) ไม่มีรถ นั่งรถเมล์หรือ BTS MRT มาได้เลย ไล่ทุกวันจนกว่าประยุทธจะออกไป
ซึ่งการนัดหมายนี้เมื่อวันที่ 29 ส.ค.นี้ จัดคาร์ม็อบร่วมกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. ที่ได้ได้ปราศรัยนัดหมายการชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี หลายฝ่ายก็จับตามองว่า การจุดชุมนุมนี้จะเชื่อมโยงกับกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำคณะราษฏร ที่ได้โพสต์นัดหมายชุมนุมหน้ารัฐสภาเกียกกาย วันที่ 3 ก.ย.64 โดยมีเป้าหมายใหญ่ในการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และการนัดหมายของ กลุ่มRedem ที่สวนลุมพินี ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ เคลื่อนไหวกดดันมุ่งปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งตรงกับวันลงมติไม่ไว้วางใจ
แม้หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่า ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลทั้งเกมในสภา และการชุมนุมกดดันนอกสภา จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจลาออกจริงหรือไม่ ซึ่งคำตอบก็คงต้องมองไปทางเดียวกันคือ ไม่แน่นอน เพราะยุทธวิธีนี้ แม้ในอดีตอย่างกลุ่ม กปปส. ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำมวลชนเป็นล้านคน เดินขบวนทั่วกรุง จัดเวที ตามจุดแยกสำคัญต่างๆ ก็ไม่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นลาออกแต่อย่างใด
แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือท่าทีของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำ ได้มีการโพสต์ ชื่นชม ปรากฏการณ์ ม็อบทะลุแก๊สที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยมีข้อความว่า D-Day ที่ BTS อโศก ได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ทะลุแก๊สที่สามเหลี่ยมดินแดง คือ การนัดหมายในพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ในการขับไล่ประยุทธ แม้ว่าจะมีเหตุปะทะกันทุกครั้งในพื้นที่ดังกล่าว แต่ปรากฏการณ์ที่ประชาชนมากันเองโดยไม่ได้นัดหมายแต่ทุกคนเข้าใจว่าม๊อบจะเกิดขึ้นทุกวันตอนเย็นนั้น เป็นความสวยงามในด้านปรากฏการณ์ มันคือการสื่อสารที่ไม่ต้องใช้คำพูดแต่ใช้ใจสื่อสารกัน เป็นวินัยของการอุทิศตน หากเราตัดเรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงออกได้ ปรากฏการณ์ที่สามเหลี่ยมดินแดงน่าสนใจมาก
ผมอยากเห็นม๊อบที่มีแรงบันดาลใจแบบสามเหลี่ยมดินแดงโดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง และการมีม๊อบในแบบที่ไม่มีทางเลิกล้มหากไม่บรรลุเป้าหมายเช่นนี้ ภาระทั้งหมดจะไปอยู่กับฝ่ายรัฐที่ต้องอธิบายทุกวันว่าเมื่อไหร่ประยุทธจะลาออก การตั้งป้อมค่ายที่อโศก ซึ่งมีความหมายว่า ไม่เสียใจ คือหลักประกันได้ว่า ชัยชนะจะตกเป็นของประชาชน ขอใช้หัวใจนัดหมายพี่น้องประชาชนทั้งในกรุงเทพและหน้าศาลากลางจังหวัดต่างๆ หรือ จุดที่แต่ละพื้นที่เห็นว่าเหมาะสม
จากข้อความข้างต้น นี่คือการส่งสัญญาณ ให้มวลชนนัดหมายชุมนุมทั้งในกทม. และต่างจังหวัด โดยมองรูปแบบการชุมนุมที่แยกดินแดง นั้น แสดงว่า นายสมบัติ ต้องการให้การชุมนุมทุกที่ใช้ความรุนแรง ไม่มีแกนนำ สร้างความวุ่นวาย เพื่อให้นำไปสู่การก่อจลาจลใช่หรือไม่
ทั้งที่หลักฐาน ภาพถ่าย การให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อของ กลุ่มผู้ชุมนุม ไม่มีเป้าหมาย หรือยุทธศาสตร์ในการเรียกร้องประชาธิปไตย หรือข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมเลย มีเพียงแค่การต้องการชีวิตวัยรุ่นคืน การขอยกเลิกเคอร์ฟิว เพื่อได้ดื่มน้ำกระท่อมได้ การเอาระเบิด ลูกแก้ว ประทัด มายิงใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อความมัน สะใจ ได้ทำร้ายและเอาคืน ตร.ควบคุมฝูงชนเท่านั้น
และที่สุดคือกลุ่มคนที่ไม่มีใครฟังใคร วิ่งกรูกันไปทำร้ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ จนบาดเจ็บสาหัส เสมือนไม่ใช่คน ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกันแต่อย่างใด ดังนั้นแล้ว การที่ นายสมบัติ นัดหมายชุมนุมใจกลางเมืองแล้วกล่าวชื่นชม ม็อบดินแดง ที่ใช้รุนแรง มีอาวุธ ก่อความวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อน ทุบเผาทำลาย ทรัพย์สินทางราชการ แบบนี้หรือที่ต้องการให้เป็นแบบอย่างของการชุมนุม เพื่อเป้าหมายใหญ่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายสู่เหตุจลาจลใช่หรือไม่