“ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจฯ แจกเงินดิจิทัลขัดรธน.

"ศรีสุวรรณ" ร้องผู้ตรวจฯ แจกเงินดิจิทัลขัดรธน.

วันที่ 13 พ.ย. 66 เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ม.231(1) ประกอบ ม.23(1) แห่ง พรป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 2560 เพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า พรบ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.140 ประกอบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 ม.53 หรือไม่ โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน

 

 

สืบเนื่องจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ออกมาแถลงรายละเอียดโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ให้กับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยต้องเป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่า 7 หมื่นต่อเดือน และมีเงินฝากรวมกันทุกบัญชี ต่ำกว่า 5 แสนบาท มีระยะเวลาการใช้เงิน 6 เดือน โดยมีแหล่งเงินจากการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา พูดมาโดยตลอดว่า จะไม่กู้เงินมาดำเนินการโครงการนี้ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ของผู้นำประเทศ ที่ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรง และเป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การใช้ช่องทางในการกู้เงินมาแจกเพื่อสร้างความนิยมทางการเมืองเท่านั้น อันอาจขัดต่อ ม.9 วรรคสาม แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 อีกทั้งไม่เข้าข่ายเป็นกรณีที่มีความจําเป็นที่จะต้องดําเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจําปี ได้ทันตาม ม.53 ของกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อีกทั้ง การจะออกกฎหมายกู้เงินดังกล่าว ซึ่งเป็นกฎหมายการเงิน จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ 2548 โดยเคร่งครัดด้วย โดยเฉพาะใน ม.20 และ ม.22

นอกจากนั้น ยังอาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 140 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า การจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่า ด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง หรือกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ เว้นแต่ในกรณีจําเป็นรีบด่วนเท่านั้น แต่การที่รัฐบาลจะกู้เงินมาแจกโดยออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินนั้น เป็นการเลี่ยงบาลี เพื่อต้องการสร้างภาพในการตอบสนองนโยบายที่พรรคของตนเคยหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้งเท่านั้น และคนไทยทั้ง 70 ล้านคนจะต้องมาร่วมกันแบกรับหนี้ เพื่อร่วมกันใช้ดอกเบี้ย ร่วมกันใช้หนี้ในอนาคตกันทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือจน จึงเป็นการสร้างภาระให้กับคนในอนาคตต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตาม องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงไม่อาจปล่อยให้รัฐบาลใช้อำนาจไปตามอำเภอใจได้ จึงได้นำความมาร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า การออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทดังกล่าว ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.140 ประกอบ ม.53 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 หรือไม่ อย่างไร เพื่อยุติการใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเมือง บนความเสียหายของวินัยการเงินการคลังของชาติต่อไป

 

ด้านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน จะมีการเร่งนำเสนอ และนำให้ผู้ตรวจการฯ พิจารณาตามข้อร้องเรียนโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถตอบได้ว่า จะใช้เวลานานเท่าไหร่ อยู่ที่ดุลพินิจของผู้ตรวจฯ ภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมถกแนวทาง "หลักประกันค่าชดเชย" กรณีถูกเลิกจ้าง 9 เม.ย.นี้
จนท.นำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่โซน B ได้แล้ว ลุยตัดสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่
วอร์รูม “ก.แรงงาน” เร่งเครื่องจ่ายเงินเยียวยา เหยื่อแผ่นดินไหวแล้ว 17.4 ลบ.
"ดีอี" เตือนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอม “สัญญาณเตือนสึนามิ น้ำทะเลภูเก็ตลดฮวบ หลังแผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา”
วินาศสันตะโร รถชนกันสนั่น 7 คันรวด น้ำมันหกเต็มถนนพหลโยธิน มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย
"สันติสุข" แจงมองต่าง เหตุแพทยสภาเลื่อนตัดสินปมชั้น 14 เชื่อคกก.รู้สังคม จับตา ไม่ยอมทำสิ่งเสื่อมเสียเกียรติแน่นอน
อากาศวันนี้ "อุตุฯ" เผยไทยตอนบน อากาศร้อนทะลุ 40°C เตือน 21 จว. รับมือฝนถล่ม กทม.โดนด้วย
จัดอย่างยิ่งใหญ่ ชวนเที่ยวงานวัฒนธรรม วันสงกรานต์ "งานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน และมหกรรมหนังเงานานาชาติ"
เปิดภาพนาทีรวบหนุ่มเมา แต่งกายคล้ายกู้ภัย ต่อยหน้าตร.หลังถูกจับได้แอบเข้าเขตตึกถล่ม สตง.
กลับมาอีกครั้งกับ "คอนเสิร์ตเพชรในเพลง" ในงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย 8 เม.ย.นี้ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ชมฟรี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น