ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเตรียมออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ก็มีความชัดเจนในระดับสำคัญ แต่ยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งเราไม่ขัดแย้งในหลักการ แต่เมื่อจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินก็เป็นห่วงว่าจะชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ ซึ่งการกู้เงินรัฐธรรมนูญ มาตรา 140 หรือ พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 หรือไม่ เนื่องจากบทบัญญัติระบุชัดเจนว่าการออกกฎหมายพิเศษกู้เงินนั้นทำได้ 4 กรณีคือ มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้วิกฤตของประเทศ โดยไม่สามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน ต้องครบทั้ง 4 เงื่อนไข จึงจะสามารถออกกฎหมายพิเศษกู้เงินได้
“ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจะเข้าสู่สภาฯ ในเดือนธ.ค.นี้ ดังนั้นการบรรจุเงินที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตลงไปในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะปลอดภัยกว่า และอยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ทัน การที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แล้วมาออกพ.ร.บ.กู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท ผมเห็นว่าจะเป็นการเสี่ยงต่อการขัดมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังได้” นายคำนูณ กล่าว นายคำนูณ กล่าวว่า ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ เช่นเรื่องเร่งด่วนก็เป็นปัญหาเพราะถ้าจำเป็นใช้เงินไม่อาจรอได้ เช่น สมัยรัฐบาลที่แล้วก็เลือกออก พ.ร.ก.กู้เงินเมื่อครั้งโควิด 19 ขณะที่การออกเป็นพ.ร.บ.ต้องใช้เวลาไม่น้อนกว่า 6 เดือน และตนเห็นว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่จำเป็นต้องใช้เงินต่อเนื่อง แต่เป็นการใช้เงินครั้งเดียวกระตุ้นเศรษฐกิจโดยแจกประชาชน 50 ล้านคน ส่วนที่รัฐบาลระบุความจำเป็นเพื่อแก้ไขวิกฤตของประเทศ ตนขอไม่ก้าวล่วง เพราะมีความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์แตกต่าง 2 ทาง และความเห็นของรัฐบาลที่มองว่าจีดีพีของประเทศโตต่ำเกินไปอย่างต่อเนื่อง และต่ำกว่าประเทศอื่น เมื่อเปรียบเทียบแล้วถือเป็นวิกฤตของประเทศ ตนก็เคารพความเห็นของรัฐบาล เพราะรัฐบาลได้รับการเลือกตั้งมา และเป็นนโยบายที่หาเสียงไว้ จึงมองว่าประเด็นนี้สามารถถกเถียงกันได้