สืบเนื่องจากเมื่อปี 2565 นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เปิดเผยถึง กรณีที่มีบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ในโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี วงเงิน 75 ล้านบาท ได้มีการปลอมและใช้เอกสารปลอม คือ ทำและนำหนังสือสัญญาค้ำประกันธนาคารปลอม หรือ Letter of Guarantee (LG) ปลอม เข้าทำสัญญาจ้าง
โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ย.65 นายวิวัฒน์ ได้รับมอบหมายจากเครือข่ายผู้ถือหุ้น อีสท์วอเตอร์ ให้ติดตามสอบถามความคืบหน้า กรณีเครือข่ายผู้ถือหุ้นได้ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการ ก.ล.ต. ตามที่ได้มีการร้องเรียนตามเลขที่ C 6503/0026 และ ก.ล.ต.เคยได้รับหนังสือร้องเรียนแล้ว นั้น
ล่าสุด วันนี้ (16 พ.ย.66) นายวิวัฒน์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อติดตามความคืบหน้าตามที่ได้ยื่นเรื่องเพื่อให้ ก.ล.ต.ตรวจสอบ กรณีบริษัทเอกชนคู่สัญญากับ อีสท์ วอเตอร์ ในโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี งบประมาณ 75 ล้านบาท ได้นำหนังสือค้ำประกันสัญญาหรือแบงก์การันตีปลอม มาทำสัญญากับอีสท์ วอเตอร์ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 แต่ไม่มีความคืบหน้า และเวลาล่วงเลยมากว่า 1 ปีแล้ว โดยมีนางสาวอุรสา บรรณกิจโศภน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ก.ล.ต. เป็นผู้รับเรื่อง
นายวิวัฒน์ ระบุว่า วันนี้ตนได้มายื่นหนังสือ ก.ล.ต. สืบเนื่องจากเรื่องเดิมที่ได้มีการยื่นหนังสือไว้ เพื่อตรวจสอบโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี งบประมาณ 75 ล้านบาท ของบริษัท อีสท์ วอเตอร์ และตรวจสอบหนังสือค้ำประกันสัญญาหรือแบงก์การันตีปลอม ของธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2565 และในวันนี้ตน ได้ทราบข้อเท็จจริงจาก ก.ล.ต.ว่า ได้มี การตรวจสอบเรื่องร้องเรียนทุกอย่างครบถ้วน และยังไม่พบการกระทำความผิด หรือ ความผิดปกติของกรรมการบริษัท ดังนั้น ในส่วนของกลุ่มธรรมาภิบาลฯ ซึ่งรับอำนาจจากผู้ถือหุ้นในการตรวจสอบเรื่องนี้ จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ และหากมีพยานหลักฐานใหม่จะนำส่ง ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง