(16พฤศจิกายน 2565) เวลา 13.30 น. นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ คปภ. เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “คปภ. ปลุกพลังนักบิด คุ้มครองอย่างห่วงใย ด้วยประกันภัยพ.ร.บ.”โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อปลุก พลังและรณรงค์เชิงรุกในพื้นที่นำร่องนิคมอุตสาหกรรมแก่เจ้าของรถ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ให้มีส่วนร่วมรับผิดชอบ ต่อสังคม และหันมาใส่ใจทำประกันภัย พ.ร.บ. ภายใต้โครงการรณรงค์เชิงรุกในพื้นที่นำร่องเพื่อส่งเสริมการทำโดยได้รับเกียรติจาก นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าการจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมงานและกล่าวต้อนรับ พร้อมทั้งผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ จังหวัดชลบุรี ผู้แทนส่วนราชการจังหวัดชลบุรี อาสาสมัครประกันภัย เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมนิกโก้ อมตะชิตี้ ชลบุรีจังหวัดชลบุรีโดยนางสาวสิริพักตร์ สุวรรณทัต ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กล่าวถึงที่มววัตถุประสงค์ของโครงการว่า เนื่องจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าข้อมูลการจดทะเบียนรถสะสมภาพรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนจำนวนกว่า 42.86 ล้านคัน ซึ่งเป็นรถที่จัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. เพียง 34. 21 ล้านคัน หรือคิดเป็นร้อยละ 79.83 ของรถที่จดทะเบียนทั้งหมด นอกจากนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
จากข้อมูลการจ่ายค่าเสียหายเบื้องตันของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย (1 มกราคม 2566-31ตุลาคม 2566) ได้มีการเยียวยาผู้ประสบภัยจากรถมากถึง 8,033 ราย คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 159 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจำนวน
ประกันภัย พ.ร.บ.จำนวนมาก โดยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ประสบภัยนั้นเกิดจากรถจักรยานยนต์ กล่าวได้ว่าการจัดกิจกรรม
“คปภ. ปลุกพลังนักบิด คุ้มครองอย่างห่วงใย ด้วยประกันภัย พร.บ. ” ในครั้งนี้ จะสร้างความตระหนักให้กับประชาชนให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการประกันภัย พรบ มากยิ่งขึ้น โดยได้เน้นกลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการทำประกันภัย พ.ร.บ. อย่างยั่งยืน และผลักดันให้ทุกพื้นที่มีการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ.อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หรือ ประกันภัย พ.ร.บ.ถือเป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคันทุกประเภทต้องจัดทำประกันภัย
พ.ร.บ. เพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคนเดินเท้า อีกทั้งสำนักงาน คปภ.ได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนด้านประกันภัย พ.ร.บ. ในหลากหลายมิติอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น
การปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองตามประกันภัย พ.ร.บ. จากเดิม 300,000 บาท ให้ได้รับความคุ้มครองสูงสุด500,000บาทการขยายช่องทางการจำหน่ายประกันภัย พ.ร.บ. ให้ประชาชนสามารถซื้อหรือต่อประกันภัย พ.ร.บ. ที่สะดวก
ยิ่งขึ้นอาทิ ช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7-11นอกเหนือจากการซื้อผ่าน
ตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย พ.ร.บ.สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มี
ระยะเวลาความคุ้มครองระยะยาว 3 – 5 ปีเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ประชาชน
รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ช่น กรมการขนส่งทางบก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศในการตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับก่อนชำระภาษีรถยนต์ประจำปี
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. เล็งเห็นว่าจังหวัดชลบุรีเป็นเมืองที่สำคัญ
ทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว โดยเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่ง
และเป็นส่วนหนึ่งของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือEECและมีจำนวนของผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นจำนวนมากรวมถึงจังหวัดชลบุรีมีความพร้อมที่จะเป็นพื้นที่แรกในการปลุกพลังและส่งเสริมประชาสัมพันธ์เรื่องประกันภัย พ.ร.บ.ให้ตระหนักถึงความสำคัญ รับรู้ถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับจากการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. รวมทั้งตั้งเป้าหมาย
ผลักดันให้จังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่ในการทำประกันภัย พ.ร.บ. เต็มรูปแบบ 100%นอกจากนี้สำนักงาน คปภ.ได้มีการจัดกิจกรรมที่สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ควบคู่ไปกับการให้ความ
บันเทิงแก่ผู้เข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม Roadshow การสร้างการรับรู้ด้านประกันภัย พ.ร.บ. ในย่านชุมชนใกล้นิคมอุตสาหกรรม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และเชิญชวนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานผ่านกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์
รวมถึงกิจกรรมรณรงค์ ที่จัดให้มีการเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากประกันภัย พ.ร.บ. การออกบูธ
ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้จากหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมินิคอนเสิร์ตจากธัญญ่า อาร์สยาม อีกทั้งในปีนี้ยังได้มี
กำหนดการจัดกิจกรรมรณรงค์ “คปภ. ปลุกพลังนักบิด คุ้มครองอย่างห่วงใย ด้วยประกันภัย พ.ร.บ. ” ที่นิคม
อุตสาหกรรมเวลโกรว์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
ทั้งนี้สำนักงาน คปภ. มีความเชื่อมั่นว่า การผนึกกำลังร่วมกับจังหวัดชลบุรีและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องในวันนี้ เปรียบเสมือนเป็นการร่วมมือร่วมใจและปลุกพลังเพื่อสื่อสารถึงประชาชน โดยเฉพาะเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองทุกคน ได้ตระหนักถึงความสำคัญและรับรู้ถึงประโยชน์ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของการทำประกันภัยโดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับงนโครงการ และประกันภัย พ.ร.บ. รวต่างๆ ได้ที่Facebookกองทุนทดแทนผู้ประกันภัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง