"กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด" คืออะไร ทานแล้วมีประโยชน์อย่างไร กรุ๊ปเลือด A B O AB ควรทานอาหารแบบไหน ไม่ควรทานอะไร เช็คครบจบที่นี่
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยทางด้าน กรมประชาสัมพันธ์ ได้ระบุว่า ดร.ทน.พญ.ณิชชา ไพรัตน์ นักเทคนิคการแพทย์หญิง ประจำงานธนาคารเลือด โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้อธิบายไว้ว่า การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด เป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยมของ Dr.Perer J.D’Adammo ซึ่งได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากอเมริกา ปี 1990 โดยเขาใช้เวลาในการศึกษาเรื่องนี้มานานกว่า 30 ปี จนได้ข้อสรุป และเขียนเป็นหนังสือ Eat Right for your Type
โดยเขาอธิบายว่า เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดต่างกัน แต่จะมี Antigen เป็นตัวกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนซึ่งเป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเหนียวและจับเกาะติดเลือดเรียกว่า ‘เล็คติน’ ถ้าการกินอาหารที่มีเล็คตินไม่เหมาะสมกับเลือดเรา เล็คตินเหล่านั้นยังเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การสร้างอินซูลิน การเผาผลาญอาหาร และความสมดุลของฮอร์โมน
คุณสุวิมล สุธีโสภณ ต้นตำรับอาหารแนว Blood Type Cuisine ในชื่อ The Third Floor อาคารวีรสุ ถนนวิทยุ เป็นผู้ที่ศึกษา และทดลองกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดมานานกว่า 3 ปี ได้กล่าวว่ากินแบบนี้ไม่ทรมานตัวเองจนเกินไป ขณะที่กินอาหารแนวอื่น อาจจะทำให้เรารู้สึกเครียดเพราะความอยากกิน แต่วิธีนี้เพียงแต่เรากินของที่ห้ามให้น้อยลง และกินของมีประโยชน์ให้มากขึ้น ซึ่งผลพลอยได้คือน้ำหนักลด และโรคปวดตามข้อค่อย ๆ หายไป โดยหลายคนที่นำเอาหลักการนี้ไปใช้ แล้วลองทำกับข้าวรับประทานเองชมว่า เขาน้ำหนักลดลง ไปรับประทานอาหารนอกบ้านก็ไม่ลำบาก เพราะเราสามารถเอาหลักการกินตามกรุ๊ปเลือดไปปรับใช้ได้ โดยสามารถแบ่งได้ตามแต่ละกรุ๊ปเลือด ดังนี้
- เลือดกรุ๊ปเอ
คนเลือดกรุ๊ปเอนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีกรดในกระเพาะต่ำ ซึ่งทำให้ระบบการย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกันไม่ดีเท่าที่ควร และนอกจากนี้คนเลือดกรุ๊ปเอ ยังมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจ และโรคมะเร็งอีกด้วย โดยอาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดเอ คือ อาหารประเภทปลา ที่ช่วยเสริมสร้างโปรตีน ซึ่งควรทานปลา 3-4 ครั้ง ต่อสัปดาห์ แต่ให้หลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด ที่มีเล็คตินซึ่งรบกวนระบบการย่อยอาหาร และลดการรับประทานเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้น้อยลง และเลือกดื่มนมถั่วเหลือง หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำแทน และควรเลือกดื่มนมแพะแทนนมวัว
ควรเลือกทานอาหารประเภทธัญพืช โดยเฉพาะ เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ข้าวกล้อง และซีเรียล และเลือกรับประทานผัก ได้ทั้งผักสดและผักสุก โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่ และบร็อคโคลี ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง และ แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน สำหรับผลไม้ ไม่ควรทานแตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะจะย่อยยาก
- เลือดกรุ๊ปบี
สำหรับคนเลือดกรุ๊ปบี ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องไวรัส และภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทไม่ค่อยดี และปวดตามข้อ และมีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองซึ่งคนเลือดกรุ๊ปบี มีอาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด คือเนื้อแกะ ปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ ปลาเนื้อขาว ปลาจะละเม็ด ปลาตาเดียว และควรลดการทานเนื้อหมู ไก่ กุ้ง ปู และหอยแครงให้น้อยลง เพราะเป็นการรบกวนระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
สามารถรับประทานข้าวโอ๊ต ข้าวกล้องได้ ในขณะที่แป้งสาลี ถั่วลิสง และโฮลวีท ไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของคนเลือดกรุ๊ปบีอีกด้วย สามารถทานผลไม้ได้เกือบทุกชนิด ยกเว้น ลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ และควรดื่มน้ำขิง เปปเปอร์มินต์ และชาเขียว เพื่อการบำรุงร่างกายด้วย
- เลือดกรุ๊ปโอ
สำหรับคนเลือดกรุ๊ปโอ จะมีกระเพาะอาหารที่มีความเป็นกรดสูง ทำให้สามารถย่อยอาหารได้ดีกว่าคนเลือดกรุ๊ปอื่น ๆ แต่ในทางกลับกัน คนเลือดกรุ๊ปโอ จะมีระบบเผาผลาญที่ไม่ค่อยดี มีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่คงที่ ทำให้อ้วนง่าย และเลือดแข็งตัวช้าโดยคนเลือดกรุ๊ปโอสามารถเลือกทานเนื้อได้ตามใจชอบ รวมไปถึงอาหารทะเล เพียงแค่ต้องระวังเรื่องปัญหาไขมันและโคเรสเตอรอลสักหน่อย และควรเลี่ยงอาหารประเภทแป้งให้ได้มากที่สุด
และควรต้องเน้นผักที่มีวิตามินเค อย่าง บร็อกโคลี และผักโขม ซึ่งจะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ดี และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเขือยาว และมันฝรั่ง ซึ่งจะทำให้ปวดข้อได้ ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีกรดสูงอย่าง แคนตาลูป มะพร้าว ส้ม และสตรอเบอร์รี่ ควรงด ชา กาแฟ เพราะจะเป็นการเพิ่มกรดในกระเพาะได้
- เลือดกรุ๊ปเอบี
คนเลือดกรุ๊ปเอบี เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกรุ๊ปเลือดเอและกรุ๊ปเลือดบี ดังนั้น คนเลือดกรุ๊ปเอบี จะเป็นส่วนผสมของการรับประทานมังสวิรัตินิด ๆ กับคาร์โบไฮเดรตหน่อย ๆ จุดอ่อนสำคัญของคนเลือดกรุ๊ปเอบี จึงเป็นเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกับกรดในกระเพาะต่ำ โดยอาหารสำหรับคนเลือดกรุ๊ปเอบี จะเป็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้ ไม่ควรทานอาหารที่ย่อยยาก อย่างปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน
เน้นอาหารไขมันต่ำจำพวกเนย นม ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำ ควรงดเว้นการรับประทานถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน และควรทานผักสดเยอะ ๆ เพื่อช่วยป้องกันมะเร็ง และโรคหัวใจ และไม่ควรกินกล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม เพราะเป็นอาหารที่ย่อยยาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมประชาสัมพันธ์
OfficeMate (Thailand)
มัดรวมกระเช้าของขวัญ ราคาไม่เกิน 1,000.-
แต่คุณภาพอัดแน่น ถูกใจผู้รับแน่นอน
ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง