นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย และ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มซบเซาหนัก หลังจากสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3 ขยายได้เพียง 1.5% หลังจากไตรมาส 2 ขยายได้ 1.8% และไตรมาสแรกขยายได้ 2.7% โดย 9 เดือนแรกของปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.9% เท่านั้น ซึ่งเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2566 อาจจะขยายได้ไม่ถึง 2% การที่สภาพัฒน์ฯ ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 ว่าจะขยายได้ 2.5% ไม่น่าจะทำได้จริง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายจะต้องขยายตัวอย่างน้อย 4.3% ซึ่งจากแนวโน้มปัจจุบันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
การที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 10 ปีเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยเพียงปีละ 1.8 – 1.9% เท่านั้น ซึ่งต่ำมากและต่ำที่สุดในอาเซียน ไทยถูกขนานนามจากสื่อต่างประเทศว่าเป็นคนป่วยของเอเซียตั้งแต่ก่อนจะเกิดวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดเสียอีก และเป็นการยืนยันการอยู่ในภาวะกบต้ม เป็นตามทฤษฎีกบต้มที่ตนได้เคยเตือนไว้แล้วตั้งแต่ปี 2559 และ ถูกพลเอกประยุทธ์ส่งคนมาฟ้องร้องตนในปี 2560 เป็นหลักฐานการเตือน แต่สำนักอัยการสั่งไม่ฟ้องแล้ว ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องกระโดดให้พ้นภาวะกบต้มนี้ โดยต้องเร่งให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวให้ได้ 5% ตามศักยภาพตามที่ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ และ เอดีบี ได้เคยระบุไว้