“ธรรมนัส” ตั้ง “ทีม ฉก.พญานาคราช” สั่งลุยปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนให้สิ้นซาก เร่งขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศ ทันที คาดตัวการอยู่เบื้องหลัง“หมูเถื่อน” ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ยันไม่นานจะทราบผล

วันที่ 21 พ.ย.66 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ภายหลังเป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ป้องกันและปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและเกษตร (พญานาคราช) ครั้งที่ 1 โดยมี นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร , นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ , นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) , พลตำรวจตรี ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พันเอก ธนชาติ เหมะจันทร ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ร้อยเอก ธรรมนัส เปิดเผยภายการประชุมว่า วันนี้กระทรวงเกษตรฯ และ ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ และสินค้าประมงผิดกฎหมาย หรือ “ทีม ฉก.พญานาคราช” ที่แต่งตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติการและสนับสนุนเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ สารวัตรประมง และสารวัตรเกษตร ในการเร่งรัดตรวจสอบ ติดตาม และจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรแบบผิดกฎหมาย พร้อมบูรณาการร่วมกับ ปปง. ในการเข้ายึดทรัพย์ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และสำนักงานอัยการสูงสุดในการดำเนินคดีทางกฎหมาย เพื่อตัดตอนขบวนการให้สิ้นซาก พร้อม ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ เพื่อลดความสูญเสียด้านเศรษฐกิจจากการถูกแทรกแซงกลไกราคาตลาดอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ การมอบนโยบายแก่ ทีม ฉก. พญานาคราช ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการฯ สนับสนุนการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ที่ขึ้นตรงกับรมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข็มแข็งและเอาจริงเอาจัง เพื่อกำจัดขบวนการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้สิ้นซาก

พร้อมยืนยัน การจัดตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้น เพื่อเป็นการดำเนินการป้องกันและปราบปรามโดยใช้กฎหมายของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งมีพ.ร.บ.โรคระบาดฯ รวมถึงการดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมจะทำให้ผู้ที่กระทำผิดได้รับโทษที่ไม่ใช่เพียงโทษปรับ แต่จะมีการขยายผลไปยังโทษอาญา และยึดทรัพย์ต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ร้อยเอกธรรมนัส ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ประสานความร่วมมือกับทุกจังหวัดเพื่อจัดประชุมร่วมกับผู้ประกอบการในการเร่งขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศ เพื่อ Set Zero ระบบการตรวจสอบ ขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทาง โดยจะติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานทุก ๆ 15 วัน นอกจากนี้ ในวันที่ 30 พ.ย.66 จะทำการ kick off เพื่อเปิดปฏิบัติงานร่วมกันของทีมเฉพาะกิจชุดนี้ ที่สะพานปลากรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการไปยังอธิบดีดีเอสไอ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ในการขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรอระยะเวลาว่าจะมีการปฏิบัติการเช่นไรต่อไป และอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาจมีช่องโหว่ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนหมูเถื่อนได้นั้น ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อปี 64-65 โดยเรากำลังแก้ปัญหาเรื่องเก่าๆ และกำลังทำความสะอาดบ้าน ซึ่งหลังจากนี้ หากยังมีผู้กระทำความผิดจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ซึ่งจากเอกสารเกิดขึ้นเมื่อปี 64 -65 ตนจึงได้ให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งคณะกรรมการในการสืบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด และ หากพบว่ามีผู้กระทำผิดที่ยังรับราชการอยู่จะมีการดำเนินการตามกฎหมายเช่นเดียวกัน

ร้อยเอกธรรมนัส ยอมรับว่า ปัจจุบัน ยังมีการตรวจยึดหมูที่มีการลักลอบนำเข้าเกือบทุกวัน แต่ตนไม่ต้องการให้เป็นข่าวซ้ำๆ จนประชาชนเบื่อ แต่ได้มีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อยึดได้จะมีการทำลาย จึงไม่ได้มีการแถลงข่าว ว่าได้มีการทำลายหมูเถื่อนไปแล้วกี่ตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์เป็นผู้มีอิทธิพลได้มีการให้ข่าวเพื่อชักชวนประชาชนไปต่อต้านการทำลายสินค้า จึงขอปิดทุกอย่างเป็นความลับ ยืนยันไม่ได้เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล และกำลังดำเนินการจัดการอยู่ โดยตนจะมีการแถลงภาพรวมการจับกุมและมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ในการแถลงผลงาน 100 วันของกระทรวงเกษตรฯ

ด้านพลตำรวจตรี เอกรักษ์ ระบุว่า ในส่วนของผู้กระทำผิด ทางด้านของปปง. ดีเอสไอ สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ซึ่งเป็นคณะทำงานที่นายกรัฐมนตรีได้ตั้งขึ้นมา และได้รับข้อมูลสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรฯ ทำให้ขณะนี้มีหลักฐานคืบหน้าไปมาก และเชื่อว่า อีกไม่กี่วันนับจากนี้ จะมีความคืบหน้า รวมถึงมีการปฏิบัติการเกิดขึ้น โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ พร้อมยืนยัน ขณะนี้ชุดปฏิบัติงานมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว เพียงแต่การลักลอบขนหมูเถื่อนเกิดขึ้นมาตั้งแต่พ.ศ. 2564 -2565 และหมูที่มีการลักลอบนำเข้าได้มีการจำหน่ายหมดแล้ว เหลือเพียงเอกสาร ดังนั้น จึงต้องติดตามจากเอกสารที่มีการแสดงในพิธีศุลกากรและรายการเดินบัญชี รวมถึงเส้นทางการเงินเพื่อพิสูจน์ ว่ามีใครเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังบ้าง จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบแต่ยืนยันว่าในไม่นานจะทราบผลอย่างแน่นอน

นายสัตวแพทย์สมชวน ระบุว่า สำหรับการตรวจค้นของกรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยงข้องได้มีการตรวจค้นห้องเย็นไปแล้วกว่า 2,700 แห่ง และได้มีการขอรายชื่อจากกรมโรงงาน มีร่วม 3 พันแห่ง และเมื่อเข้าตรวจค้นแล้วเสร็จจะนำเรียนรัฐมนตรีต่อไป เบื้องต้นมีการดำเนินคดีไปแล้วกว่า 70 คดี โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคกลาง จังหวัดสมุทรสาคร

ธรรมนัส, หมูเถื่อน, ทีมฉก.พญานาคราช, สินค้าเกษตรเถื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสางปมหมูเถื่อน “ธรรมนัส” ตั้งทีมฉก.พญานาคราช