“สว.สมชาย” เปิดตัวเลขใช้งบฯทำประชามติ รื้อ ร่างรธน.ใหม่ เบ็ดเสร็จกว่าหมื่นล้าน

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.และในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการสามัญพิจาณาญัตติฯเพื่อทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊กว่า สรุปข้อมูลข้อกฎหมายและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจะทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยกเลิกไว้ให้ครบถ้วนแล้ว อาจไม่จำต้องถกเถียงกันให้เสียเวลา หากสนใจจริงลองอ่านรายงานของคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาญัตติ ขอให้สภามีมติลงเรื่องที่มีเหตุสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติ ให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ ที่วุฒิสภาจัดทำรายงานต่อสภาแล้ว เนื้อหาทั้งหมด 169 หน้า อ่านครบจะเข้าใจชัดเจน

สำหรับรายงานฉบับนี้ สว.ได้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญมาพิจารณาญัตติด่วนของสภาผู้แทนราษฎร ที่ลงมติเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2565 เห็นชอบให้สภาฯพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีดำเนินการออกเสียงประชามติแก้รัฐธรรมนูญ โดยมีคำถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่าประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน”

ข่าวที่น่าสนใจ

สาระสำคัญในรายงานของคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาญัตติ เห็นว่า ญัตติที่ขอให้มีการออกเสียงประชามติดังกล่าว มีลักษณะที่มุ่งเพียงการตั้งคำถามเท่านั้น แต่มิได้มีสาระสำคัญแสดงถึงข้อบกพร่องอันเกี่ยวกับเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เหตุจำเป็นที่ต้องใช้วิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับเดิม และแนวทางของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อันเป็นเรื่องที่จะขอทำประชามติในลักษณะที่ชัดเจนเพียงพอให้ประชาชนสามารถเข้าใจเนื้อหาสำคัญในเรื่องดังกล่าวได้โดยสะดวก ญัตติดังกล่าวจึงอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้มีการออกเสียงประชามติ ตามมาตรา 11 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 และตามข้อ 48/1 ของข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.2565 ตลอดจนข้อ 39/1 ของข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2565

ในรายงานฉบับนี้ยังรายงานข้อมูลจากก กกต.ว่า การออกเสียงประชามติจะใช้งบประมาณ 3,500 ล้านบาท ดังนั้นในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ หากมีการทำประชามติอย่างน้อย 2 ครั้ง จะใช้งบประมาณการทำประชามติรวมกันจำนวนไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็น การกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ในกรณีที่ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว การดำเนินการภายหลังจากนั้น คือ กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งย่อมจะต้องเตรียมการ ด้านบุคลากรและงบประมาณเพื่อรองรับการดำาเนินการดังกล่าว คณะกรรมาธิการสามัญได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งปรากฏข้อมูลว่า เฉพาะในชั้นของการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2559 มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ การรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน และการจัดทำร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ในระยะเวลา 6 เดือนของการทำหน้าที่ รวมงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 106,787,600 บาท

ทั้งนี้จากการพิจารณาแนวทางการทำประชามติ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับในขณะนี้ของคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้มีความเห็นเบื้องต้นว่าการทำประชามติจะต้องทำทั้งหมด 3 ครั้ง ดังนั้นหากเป็นไปตามนี้การทำประชามติเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่จะใช้งบประมาณถึง 10,500 ล้านบาท ยังไม่รวมงบประมาณที่จะต้องใช้ดำเนินการในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น