ศูนย์สำรวจความคิดเห็นอิสระ เมอร์เดกา เซ็นเตอร์ ได้เปิดเผยผลสำรวจความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย โดยหลังจากที่อันวาร์เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้มีการสำรวจเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2022 และพบว่า คะแนนนิยมของเขาอยู่ที่ 68 เปอร์เซ็นต์ แต่มาในปีนี้ ผลสำรวจตั้งแต่วันที่ 4 – 24 ตุลาคม และเผยแพร่ในวันที่ 22 พฤศจิกายนพบว่า คะแนนนิยมของเขาลดลงเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยเกือบ 8 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสำรวจ 1,220 คนกล่าวว่า เศรษฐกิจเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่ชาวมาเลเซียเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
ในส่วนของคะแนนนิยมของพรรครัฐบาล ก็ลดลงจากปลายปีที่แล้วเช่นกัน โดยในการสำรวจเมื่อเดือนธันวาคม 2022 คะแนนนิยมอยู่ที่ 54 เปอร์เซ็นต์ แต่ในปีนี้ ได้ลดลงเหลือ 41 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบว่า มีเพียง 31 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้น ที่คิดว่า ประเทศกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง ในขณะที่ 60 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า กำลังไปในทิศทางที่ผิด เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ความไม่มั่นคงทางการเมือง และการบริหารที่ย่ำแย่ การสำรวจนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังของประชาชนว่า อันวาร์จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นมาใหม่ รวมถึงจัดการกับความวิตกกังวลที่มีมายาวนาน เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตของค่าจ้างที่ซบเซาด้วย
ด้านดร.โอ เอย ซุน นักวิเคราะห์และที่ปรึกษาหลักของศูนย์วิจัยแปซิฟิกแห่งมาเลเซีย ได้แสดงความเห็นกับเดอะสเตรทไทมส์ สื่อของสิงคโปร์ว่า อันวาร์เผชิญกับความยากลำบากในการตอบสนองชาวมาเลย์ส่วนใหญ่ โดยดูได้จากที่ว่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบท ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นเป็นฐานที่มั่นของพรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน อันวาร์จำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่พื้นที่ชนบทของชาวมาเลย์ จำเป็นต้องสร้างธุรกิจที่นั่น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากในพื้นที่ชนบท
โอระบุต่อว่า อันวาร์ยังควรมุ่งเน้นไปที่การรักษากลุ่มผู้สนับสนุนดั้งเดิมของเขาไว้ ที่อยู่ในหมู่ชาวมาเลย์ในเมือง โดยการดูแลความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจของพวกเขา รวมถึงอันวาร์จำเป็นต้องสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และรักษาเงินทุนในท้องถิ่นเอาไว้ รวมถึงต้องนำเสนอประเทศให้เป็นมิตรต่อธุรกิจ แทนที่จะเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ด้วย