นี่คือร้านอาหารชื่อว่า ฟิวโต (Fiuto) ตั้งอยู่ในย่าน ปอนเต มิล-วิโอ กลางกรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี ความพิเศษของร้านคือการที่เจ้าของสามารถจับจูงน้องหมาเข้าไปกินดินเนอร์ด้วยกันได้ โดยสามารถเลือกเมนูที่รังสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น ไข่ต้มกับซุปถั่วลันเตาและชีสฟอนตินา หรือเมนูปลากินกับชีสริคอตตาแและคอร์เกต (ซูกินี) หรือจะสั่งน้ำแอปเปิ้ล น้ำแตงโม กล้วย สตรอว์เบอร์รี หรือน้ำลูกแพร์มาแก้กระหายก็ได้
หลังเปิดให้บริการมาได้ราวหนึ่งเดือน เจ้าของบอกว่า ได้รับการตอบรับดีเกินคาด ในวันทำงาน มีลูกค้า 4 ขาเข้าไปใช้บริการ เฉลี่ย 6-10 ตัว วันหยุดสุดสัปดาห์ 10-15 ตัว
น้องหมาจะอยู่บนเบาะผ้าฟลีซ ติดกับโต๊ะของเจ้าของ โดยแต่ละโต๊ะ จะมีฉากกั้นเพื่อที่ว่า เวลาสุนัขกิน จะไม่เห็นกัน ป้องกันการล้ำเข้ามาในพื้นที่ของอีกฝ่าย
ลูกา กรัมมาตีโก หัวหน้าเชฟซึ่งเคยเป็นครูฝึกสุนัขมาก่อน บอกว่า เมนูของร้านคิดค้นร่วมกับนักโภชนาการ การเลือกวัตถุดิบจะคำนึงเรื่องการแพ้อาหารด้วย เพราะสุนัขจะมีอาหารที่แพ้มากกว่าคน จะไม่มีการใส่เครื่องเทศ เกลือหรือน้ำมัน การปรุงอาหารสำหรับสุนัข จะใช้ครัวแยกต่างหากกับเจ้าของ ไม่ปะปนกัน
ขนาดของอาหารจะจัดตามไซซ์สุนัข โดย ไซซ์ S สำหรับน้องหมาหนัก 2-10 กิโลฯ ไซซ์ M 11-20 กิโล L – 21 ถึง 30 กิโล และ XL เป็นสุนัขใหญ่ 30 กิโล ราคามีตั้งแต่ 8 ยูโร ถึง 20 ยูโร หรือประมาณ 300-770 บาท แล้วแต่ขนาดของสุนัข เมนูที่ได้รับความนิยมมาก คือปลา ซึ่งอาจเป็นเพราะรสชาติต่างจากอาหารที่กินปกติ
ซารา นิโคซานติ ลูกค้าที่พาน้องหมาไปใช้บริการ กล่าวว่า สัตว์เลี้ยงก็คือส่วนหนึ่งของครอบครัว ไม่แปลกที่จะดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว เธอพอใจกับเมนูของร้านมาก เพราะสุนัขต้องการอาหารที่ครบและวัตถุดิบเหมาะสมเช่นกัน
ส่วน โรมินา ลันซา ทนายความวัย 40 ปี ที่พาน้องหมาไปฉลองวันเกิด 4 ขวบที่นั่น บอกเช่นกันว่า การเปิดร้านอาหารแบบฟิวโต เป็นไอเดียที่ดี ส่วนใครจะตั้งคำถามเหมาะสมหรือค่อนแคะว่าสุนัขได้กินอาหารสดใหม่ ราคาแพง ขณะผู้คนในอีกหลายพื้นที่ของโลกยังหิวโหย เธอบอกว่า มันเป็นเรื่องของแต่ละคน ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ส่วนมาเรีย นักศึกษาวัย 20 ปี ที่รู้จักร้านฟิวโตผ่านติ๊กตอก บอกว่าสำหรับคนที่ไม่ได้เลี้ยงหมาก็อาจคิดแบบนั้น แต่คนที่เลี้ยง เธอรู้สึกดีมากเมื่อได้มาที่นี่ด้วยกัน