ชาวนาเฮ “ภูมิธรรม” กดปุ่มโอน ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 20,000 บาทต่อราย เริ่มวันนี้ถึง 2 ธ.ค.66

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 8.45 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ Kick Off มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบมาตรการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 ซึ่งมีเป้าหมายเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน โดยจะมีการจ่ายเป็น 5 งวด (28 พ.ย. – 2 ธ.ค.66) เริ่มจ่ายวันนี้ (28 พ.ย.66) เป็นวันแรกครอบคลุม 21 จังหวัด จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2566 จึงจะครบทั้ง 77 จังหวัด กรอบวงเงินรวมกว่า 54,336 ล้านบาท ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

“รัฐบาลตั้งใจที่จะลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้ท่าน ความร่วมมือครั้งนี้ สำเร็จได้เพราะพี่น้องเกษตรกรและตัวแทนชาวนาช่วยกัน วันนี้เป็นวันแรกที่โอนเงินได้และเมื่อครบ 5 วันก็ครบทั้งประเทศ ปีต่อไปให้มาลงทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต อนาคตเราจะใช้เทคโนโลยีมาเสริมให้ผลผลิตสูงขึ้น จะได้เอาเงินก้อนนี้มาแก้ไขปัญหาต่างๆได้มากขึ้นให้ผลผลิตต่อไร่ดีกว่านี้ ความสำเร็จในครั้งนี้ได้ความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรฯ ขอให้เกษตรกรทุกคนมีกำลังใจ”

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ขอบคุณรัฐบาลที่ให้เงินไร่ละ 1,000 แก่เกษตรกร ขอบคุณท่านรองนายกฯ และทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับเกษตรกร ชาวนาทุกคนฝากขอบคุณท่าน ราคาข้าว 1-2 วันนี้ ขึ้นมาเป็นตันละ 13,000 บาท เป็นโอกาสดีของชาวนา เป็นระยะเวลา 17 ปี เพิ่งจะมีรัฐบาลชุดนี้ที่ราคาขึ้นมาสูง ข้าวขาวตันละ 10,000 กว่าบาท ข้าวเหนียว ตันละ 10,000 กว่าบาท ข้าวหอมมะลิ ตันละ 10,000 กว่าบาท ทำให้ชาวนาพออยู่ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า วันนี้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) จะมีการเสนอโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2566/67 โดยจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในอัตรา 4% ใช้งบประมาณ 780 ล้านบาท จากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในโอกาสแรกก่อน

และสำหรับการจ่ายเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 แบ่งเป็น 5 งวด ประกอบด้วย

งวดที่ 1 จ่ายวันที่ 28 พ.ย.66 จำนวน 21 จังหวัด คือ หนองบัวลำภู เลย นครสวรรค์พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ตาก เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลพบุรีและกรุงเทพฯ

งวดที่ 2 จ่ายวันที่ 29 พ.ย.66 จำนวน 8 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สกลนคร อุดรธานี นครพนม หนองคาย มุกดาหารและบึงกาฬ

งวดที่ 3 จ่ายวันที่ 30 พ.ย.66 จำนวน 5 จังหวัด คือ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิและยโสธร

งวดที่ 4 จ่ายวันที่ 1 ธ.ค.66 จำนวน 5 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ขอนแก่นและกาฬสินธุ์

และงวดที่ 5 จ่ายวันที่ 2 ธ.ค.66 จำนวน 38 จังหวัด คือ อยุธยา ชัยนาท สิงห์บุรี ปทุมธานี สระบุรี อ่างทอง นนทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ จันทบุรี ตราด สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ชุมพร ภูเก็ต กระบี่ ระนองและพังงา

ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่านบริการ BAAC Connect ทาง Line: BAAC Family อีกด้วย

จากนั้น นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า รัฐบาลยืนยันว่าเรามาทำงานและยึดมั่นในประชาชน ฉะนั้นความเดือดร้อนของประชาชน เป็นความเดือดร้อนของรัฐบาล ดังนั้น อะไรที่เราสามารถเคลียร์ได้ เราก็จะพยายามเคลียร์อย่างที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทำอะไรได้รีบทำเลย หากทำไม่ได้ก็ไปหาหนทางมา วันนี้เป็นวันที่เราพิจารณาแล้วว่าจะช่วยเรื่องค่าจัดการการผลิตและค่าบริหารจัดการ นำเข้า ครม.กลางเดือนพฤศจิกายน เราจะให้ไร่ละ 1,000 บาท ทั้งหมดไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งจะเห็นว่าบางคนมี 5-6ไร่ และบางคนมี 15 ไร่ 20 ไร่ เรารู้ว่าชาวนาเดือดร้อน และเป็นกลุ่มผู้ผลิตข้าวให้กับผู้บริโภคทั้งหมดที่จะได้รับ

นายภูมิธรรมกล่าวว่า มาตรการพักชำระหนี้ 3 ป่วยไปแล้ว ส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องของการจัดการบริหารข้าว ซึ่งในอนาคตเราจะพยายามมีวิธีการปรับเปลี่ยนการมาดูแลค่าใช้จ่ายเช่นนี้แล้ว เราจะพยายามเปลี่ยนพันธุ์เปลี่ยนวิธีการผลิต ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมเพื่อทำให้ผลผลิตต่อไร่มีจำนวนมากขึ้น และชาวนาจะได้สิ่งต่างๆครบถ้วน ซึ่งไม่ต้องใช้เงินตรงนี้มาดำเนินการเรื่องนี้แต่นำไปทำให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆมากขึ้น ทั้งนี้วางแผนไว้ 5 วัน 77 จังหวัด วันนี้เริ่มต้นโซนที่ 1 คือ ภาคกลาง ภาคใต้ และถัดไปเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน และจะครบ 77 จังหวัดใน 5 วันนี้ โดยใช้งบประมาณ 50,000-60,000 ล้านบาท ซึ่งเงินเข้าไปอยู่ในบัญชีของเกษตรกรทันที ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้เราได้ความร่วมมือจากทุกพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ใน และต้องขอบคุณ ธกส.ที่นำสิ่งต่างๆมาช่วยงานรัฐบาลได้มาก และขอบคุณเกษตรกร และหวังว่าท่านจะมีกำลังใจและสามารถเดินหน้าใช้ชีวิต และดำเนินการต่างๆให้ดียิ่งขึ้น

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับรอบผลิตใหม่ กระทรวงเกษตรฯ ในฐานะเป็นต้นน้ำ จะรับไปเพื่อให้เกษตรกรลงทะเบียนเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตใหม่เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ รวมทั้งมีการเปลี่ยนพันธุ์ข้าว เพื่อให้ผลผลิตต่อไร่ดีขึ้น หากประสบความสำเร็จ เราเชื่อว่าผลผลิตต่อไร่จะได้มากกว่านี้ แล้วจะแก้ปัญหาในระยะยาวได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อ.ปานเทพ"กางเอกสาร JC2544 อ้างไทย-กัมพูชา เคยรับรอง MOU 44 เป็นสนธิสัญญา
"ดร.ศิลปฯ" อดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนทวีธาภิเศก ปี 67 ปักธงสนับสนุนด้านกีฬากับเยาวชน
"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต
ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น